ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
ยังคงอยู่ที่เรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน ตลอดจนสัญญาณดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดน้ำมันรอติดตามข้อมูลแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ โดยBaker Hughes รวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังรายงานล่าสุดระบุว่า อิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันในช่องแคบฮอร์มุซ ส่วนปัจจัยในประเทศที่สำคัญ น่าจะอยู่ที่ผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลท.
*เงินบาทตลาดในประเทศ ขยับแข็งค่าขึ้นวานนี้ (18 ก.ค.) * ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันท่ามกลางการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ของการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในระยะใกล้ๆ นี้
*ส่วนเช้าวันนี้ (19 ก.ค.) เงินบาท ขยับแข็งค่าต่อเนื่องมาที่กรอบประมาณ 30.73-30.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ** *
*ตลาดหุ้นไทยปิดบวก * จากแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่นักลงทุนรอติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดปะปน โดยรวมตลาดยังถูกกดดันจากสถานการณ์การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ขณะที่ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก จากถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขานิวยอร์กที่มีท่าทีเปิดรับโอกาสของการปรับลดดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังปริมาณการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกฟื้นกลับมาได้ราว 80% ของกำลังผลิต หลังได้รับผลกระทบจากพายุที่พัดเข้ามาในสัปดาห์ก่อน ส่วนราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น หลังเงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนค่าลงจากเรื่องโอกาสการลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนนี้
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.