โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

"สรรพสามิต" อุ้มชาวไร่ลดภาษียาเส้นเหลือ2.5สตางค์ต่อกรัม 1 ปี แลกรายได้รัฐหาย600ล้านบาท

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 16 ต.ค. 2562 เวลา 07.56 น. • เผยแพร่ 16 ต.ค. 2562 เวลา 07.52 น.
72130

นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ล่าสุด กรมฯ ได้ลดภาษียาเส้น 2.5 สตางค์ต่อกรัม หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ค. ได้ปรับขึ้นในอัตรา 0.10 สตางค์ต่อกรัม เพื่อเป็นการช่วยลดภาระเกษตรกร อย่างไรก็ดี สินค้ายาเส้นเป็นหนึ่งในรายการสินค้าที่กรมฯจัดเก็บภาษีได้มากที่สุด

โดยปีงบประมาณ 2563 กรมฯ ได้รับเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ทั้งหมด 642,600 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการจัดเก็บภาษียาเส้นหลังจากปรับอัตราใหม่ คาดว่าจะจัดเก็บลดลง 600 ล้านบาทต่อปี จากเดิมคาดว่าจะจัดเก็บภาษียาเส้นได้ 2,000 ล้านบาทต่อปี คาดว่าจะเหลือเพียง 1,400 ล้านบาทต่อปี

สำหรับการปรับลดอัตราภาษียาเส้นเหลือ 2.5 สตางค์ ตามราชกิจจานุเบกษาวันที่ 15 ต.ค.62 ได้ประกาศกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 9 ) ระบุว่า ให้กรมสรรพสามิตปรับลดอัตราภาษีตามปริมาณสำหรับเกษตรกรผู้เพาะปลูก, หั่น, จำหน่าย, และผู้ผลิตรายย่อยที่ปริมาณการผลิตเฉลี่ยไม่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี ให้เสียภาษีในอัตรา 0.025 บาทต่อกรัม หรือ 2.5 สตางค์ต่อกรัม สำหรับจำนวนยาเส้นที่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี ให้เสียภาษีในอัตรา 0.10 บาทต่อกรัม หรือ 10 สตางค์ต่อกรัม ส่วนการดำเนินการดังกล่าวกำหนดให้มีระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1ม.ค.63-31ธ.ค.63 โดยหากพ้นกำหนดในช่วงเวลาดังกล่าวต้องเสียภาษีในอัตรา 0.10 บาทต่อกรัม

“ขณะเดียวกันผู้ที่เป็นผู้ผลิตรายย่อย อยากทำยาเส้นขายเองในปริมาณไม่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี สามารถทำได้โดยจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 2.5 สตางค์ต่อกรัม จากปกติที่ต้องเสียในอัตรา 10 สตางค์เท่ากับผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งมาตรการนี้จะทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การที่จะทำยาเส้นขายเองจะต้องมีการขออนุญาตจากกรมฯ ก่อน” นายณัฐกรกล่าว

นายณัฐกรกล่าวว่า และได้มีการดำเนินการออกประกาศให้แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับผู้เพาะปลูกและพ่อค้าคนกลางที่ผลิตเฉพาะวัตถุดิบ เช่น ใบยาสูบที่ยังไม่หั่นที่ผู้เพาะปลูกนำไปขายเป็นวัตถุดิบให้แก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ จะมีการปรับแก้ไขโดยจะได้รับสิทธิเสียภาษีในอัตรา 0 บาท หรือไม่ต้องเสียภาษี พร้อมกันนี้ กรมสรรพสามิตได้ขยายกำหนดเวลาในการทำบัญชีและงบเดือน รวมถึงการยื่นงบเดือนแก่ผู้ประกอบการยาสูบประเภทยาเส้นที่ปลูกและหั่นเอง เพื่อขายเป็นวัตถุดิบให้แก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ ซึ่งเสียภาษีในอัตรา 0 บาท เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระของเกษตรกรและเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรรายย่อย

ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ มีเหตุผลหลักมาจากเป็นการสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับยาเส้นที่ผลิตเพื่อขายให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาสูบให้รวมถึงการขายผ่านผู้ค้าคนกลาง และเพื่อลดภาระในการประกอบธุรกิจของเกษตรกรรายย่อยและช่วยให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยาสูบได้มีเวลาในการปรับตัว นอกจากนี้ ยังจะช่วยแก้ไขปัญหาการเสียภาษีซ้ำซ้อน ซึ่งจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยาเส้นในภาพรวมและทำให้ระบบการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตมีความเป็นธรรมยิ่งขึ้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0