สยามเมืองยิ้ม ! ทำไมถึงกลายเป็น“แหล่งนัดยิ้ม” ของคนทั่วโลกไปได้!
“…ผู้ใดเข้าติดต่อชักชวนแนะนำตัวติดตามหรือรบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถานหรือกระทำการดังกล่าวในที่อื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอายหรือเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่สาธารณชนต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท…”
นี่คือข้อความในมาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีพ.ศ. ๒๕๓๙ ที่ประกาศใช้มากว่า ๒๐ ปีแล้ว ! แต่เมื่อหันกลับมามองความเป็นจริง คงต้องอุทานกันออกมาโดยไม่ได้นัดหมายว่า นี่หรือเมืองพุทธ !!! เพราะหลากหลายรูปแบบของสถานบริการที่เปิดกันเย้ยฟ้าท้าดิน ทั้งในรูปแบบโจ๋งครึ่มอย่าง อาบอบนวด หรือแม้กระทั่งร้านนวดแผนไทย ที่แฝงไว้ซึ่งบทบาทการเป็นร้านนาบแผนพิสดาร เอาตรงๆ แค่ไปเดินผ่านย่านสุขุมวิท สีลม แล้วมองเห็น “เด็กๆ” หน้าร้านเข้าจับเนื้อต้องตัวชาวต่างชาติที่เดินผ่าน แล้วหัวร่อต่อกระซิกแม้เขาจะสนใจหรือไม่ก็ตามหลังจากนั้น ดูจะเป็นที่ชินตาท้าดินกฏหมายระดับ “พระราชบัญญัติ” ที่แทบจะไม่มีผลบังคับใช้ได้จริง !
“นครแห่งบาป” ในสายตาชาวต่างชาติ
มีคำกล่าวของฝรั่งที่ว่า “โสเภณีคืออาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในโลก” ดูแล้วคำนี้คงไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเห็นหลักฐานกันอยู่ในทุกอารยธรรม แต่เมื่ออาชีพค้าประเวณีเดินทางมาถึง พ.ศ. นี้ กลับยืนหนึ่งที่เมืองไทย !!! เอาง่ายๆ จาก Meme ใน Internet ต่างๆ ที่ฝรั่งเขาทำแผนที่เอเชียในการรับรู้ของชาวอเมริกันจากหนังสือ Atlas of Prejudice: The Complete Stereotype Map Collection แล้วเห็นได้ชัดเจนว่าสยามประเทศของเรานั้น ขึ้นตัวแดงแจ๋ว่า “Sex Slaves” คุณพระคุณเจ้า !
เท่านั้นไม่พอ คงไม่มีที่ใดจะภาคภูมิใจ (?) ยิ่งไปกว่าบ้านเมืองของเรา ที่ส่ง “เมืองพัทยา” ขึ้นแท่น “นครแห่งบาป” ในยุคนี้ ตามการนำเสนอของสื่อหัวใหญ่อย่าง Mirror ของอังกฤษนั้น ได้รายงานว่ามีนักท่องเที่ยวทั่วโลกกว่าล้านคนเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองพัทยาเพื่อซื้อประเวณี ที่มีจำนวนผู้ให้บริการกว่า 27,000 ราย ซึ่งสภาพนี้ไม่ต่างจาก นครแฝดโซดอมและกอมเมอร์ราห์(Sodom and Gommorah) อันเป็นนครแห่งบาปในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล พร้อมบรรยายสรรพคุณของสถานบริการกว่า 1,000 แห่งนี้ว่า ภายในมีเครื่องดื่ม โชว์รูดเสา โป๊เปลือย แปลกพิสดาร ซึ่งด้านหน้าก็เต็มไปด้วยสาวไทยนุ่งน้อยห่อมน้อย รองพื้นหนาแต่งหน้าจัดคอยเรียกลูกค้า !
ที่สำคัญไปกว่านั้นยังระบุด้วยว่า ธุรกิจประเภทนี้สร้างรายได้สะพัดมหาศาลให้เมืองไทยโดยไม่เคยต้องเสียภาษี ฝรั่งมังค่าจึงเจียดเศษเงินมาซื้อกันได้ในราคาที่เขามองว่าถูกแสนถูก ส่วนการบังคับใช้กฏหมายนั้น เจ้าหน้าที่กลับเข้าตรวจสอบเฉพาะที่มีการร้องเรียนค้าประเวณีของผู้ไม่บรรลุนิติภาวะและเรื่องกระบวนการค้ามนุษย์โดยไม่ได้จัดการเรื่องค้าประเวณีแต่อย่างใด!
ซึ่งประสานเป็นเสียงเดียวกับ The Richest สำนักข่าวออนไลน์ชื่อดัง ที่เคยจัดอันดับให้ไทยขึ้นสู่ อันดับหนึ่งในการสำรวจ“10 จุดหมายปลายทางเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก” โดยระบุว่าประเทศไทยนั้นมีผู้ค้าประเวณีมากกว่า 3 ล้านคน และ 1 ใน 3 ของผู้ให้บริการเหล่านี้เป็นเยาวชน ! แซงหน้า อินโดนีเซีย (ลำดับ 4) ฟิลิปปินส์ (ลำดับ 6) และกัมพูชา (ลำดับ 9) โดยผู้ให้บริการยอดนิยมของทศวรรษนี้นั้นคือกลุ่ม “Ladyboys” หรือ “สาวประเภทสอง” ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไม่น้อย
ไม่ใช่แค่เสียงสะท้อนมุมมองจากฝรั่ง ทางด้านผลสำรวจในเมืองไทยอย่าง ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ก็ได้นำเสนอผลสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการค้าประเวณี โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ พบว่า กว่า53 % ของกลุ่มตัวอย่างเคยพบเห็นการค้าประเวณี!!! โดยมีรูปแบบในการค้าประเวณีตั้งแต่ยืนรอข้างถนน อาบอบนวด สถานบันเทิง และแม้กระทั่งใน Social Media รวมทั้งสื่อออนไลน์ต่างๆ !ซึ่งช่องทางในการค้าประเวณีในปัจจุบันนั้นได้ย้ายมาอยู่ในApplication ต่างๆโดยเฉพาะLINE ซึ่งกลายเป็นช่องทางหลักกว่า70% เนื่องจากเป็นการสื่อสารที่รวดเร็วดูสินค้าได้และปิดงานได้ไว!
รายงานวิจัยล่าสุดแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน(NGO) ยังยอบรับให้ไทยเป็นแหล่งค้าประเวณียอดนิยม !
และจากรายงานการวิจัยล่าสุดที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อ30 กันยายน2561 ที่ผ่านมาของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เรื่องการศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้าประเวณีที่มีลักษณะเป็นการค้ามนุษย์ในประเทศไทยนั้น พบว่า กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน(NGO) ยอมรับว่าประเทศไทยเป็นประเทศยอดนิยมเกี่ยวกับธุรกิจทางเพศทุกรูปแบบโดยมีสาเหตุของการค้าประเวณีคือ ความยากจน / ค่านิยมที่ผิดๆเช่น ความรักสบาย รายได้ดีและหามาได้โดยง่าย / ขาดการเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนอย่างใกล้ชิด / ครอบครัวแตกแยก
เมื่อถึงวันนี้ที่ “สยามเมืองยิ้ม” ของเราได้มีความหมายเพิ่มอีกหนึ่งมุมมองในสายตาคนทั่วโลก แล้ว “การค้าบริการทางเพศของไทย” ไม่ว่าจะหญิงหรือชายหรือเพศสภาพอื่นใด ควรกลายเป็นอาชีพถูกกฏหมาย ที่มีการตรวจสอบ ลงทะเบียน เสียภาษี และควบคุมโรคอย่างในบ้างเมืองอื่น หรือมีมาตรการในการจัดการอย่างจริงจัง
เพราะประเทศไทยคือประเทศที่คงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม ทรงคุณค่า สมควรแล้วหรือที่จะถูกมองจากประเทศอื่นอย่างนี้?
*******************
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
https://medium.com/@iwishcognitivedissonance/the-data-driven-guide-to-bangkok-prostitutes-af965fc55e4b
https://www.mirror.co.uk/news/weird-news/inside-worlds-sex-capital-city-9834233
ความเห็น 57
Nutthapong
BEST
มันแปลกตรงที่ประชาชนแทบทุกคนรู้หมดว่าที่ไหนมีแหล่งซื้อขายบริการทางเพศ แต่ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ตำรวจ กลับไม่รู้ว่าพื้นที่ของตัวเองมีการซื้อขายบริการ แปล๊ก แปลก
02 ต.ค. 2561 เวลา 00.17 น.
BEST
ยอมรับความจริงเถอะถ้ายังปล่อยให้สังคมเป็นแบบนี้อยู่
แล้วก็ทำการจัดการให้เป็นระบบมากขึ้น
เมื่อต่างชาติอาจจะเข้าใจได้แยกแยะได้ว่าใครขายใครไม่ขาย
02 ต.ค. 2561 เวลา 00.15 น.
Thanachot
BEST
อย่าไปโทษเขาเราเองรู้อยู่แก่ใจ โสเภณีก็มีเซ็กฟรีก็เยอะ ไม่ต้องเข้าโรงแรมล่อแม่งกลางห้างเลย นักเรียนมัธยมต้นก็มีผัวมีลูกกันแล้ว อาชีพขายเซ็กงานเบารายได้ดีไม่ต้องมีวุฒิการศึกษาถูกใจสาวไทยในยุคฟุ้งเฟ้อเห่อรสนิยม..
02 ต.ค. 2561 เวลา 01.25 น.
Yaya...BKK 💃💃💃
ก้จริงอ่ะ ทำงานนวดแผนโบราณยังขายเซ็กเลย งง อ่ะ งานดีๆไม่ชอบทำกัน ขายศักดิ์ศรีเพื่อเงิน
02 ต.ค. 2561 เวลา 00.41 น.
ดาม
มีดีอยู่สองอย่าง เซ็กซ์กับกอล์ฟ
02 ต.ค. 2561 เวลา 00.52 น.
ดูทั้งหมด