โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สมาคมบลจ.ออกโรงชี้แจง เก็บภาษีลงทุนกองทุนรวมตราสารหนี้

ประชาชาติธุรกิจ

เผยแพร่ 24 พ.ค. 2562 เวลา 08.55 น.
111-Kวศิน
วศิน วณิชย์วรนันต์นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC)
“วศิน วณิชย์วรนันต์” แจงละเอียดยิบกรณีเก็บภาษีเงินได้กองทุนรวมตราสารหนี้ 15% ยันไม่กระทบอุตสาหกรรมกองทุนรวม เงินใหม่ไหลเข้าสะพัดปีละ 1 แสนลบ. ชี้โยกเงินลงทุนสินทรัพย์อื่นเจอเก็บภาษีเหมือนกัน

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ของกองทุนรวมจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ส.ค.62 (90 วัน นับจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา) จัดทำเพื่อให้การจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนโดยตรงในตราสารหนี้มีความเท่าเทียมกับการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม โดยผู้ออกตราสารหนี้จะหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตรา 15% ในวันที่กองทุนรวมรับดอกเบี้ย หมายความว่าเป็นการเรียกเก็บจากกองทุนรวมไม่ได้เรียกเก็บจากผู้ลงทุนในกองทุนรวมเป็นรายคน เมื่อตราสารหนี้ที่กองทุนได้ลงทุนมีการจ่ายดอกเบี้ย ผู้ออกตราสารจะหักภาษีดอกเบี้ยไว้ 15% และนำส่งกรมสรรพากรทำให้กระเงินสดจากดอกเบี้ยที่กองทุนรวมได้รับน้อยลง

โดยกองทุนรวมทุกประเภททุกนโยบายที่บลจ.บริหารเองจะมีภาระภาษี ซึ่งจะเสียภาษีเฉพาะรายได้ดอกเบี้ยหรือส่วนลดในราสารหนี้และเงินฝากที่ลงทุน ส่วนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ กองทุนรวมที่จัดตั้งเพื่อรองรับกองทุนรวมสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อรองรับการเกษียณในอนาคตซึ่งมีความจำเป็นต่อประเทศ

“ผลกระทบต่อผลตอบแทนกองทุนรวมจะค่อยเป็นค่อยไปไม่รุนแรง ไม่ใช่ลดลง 15% ในทันที เพราะทรัพย์สินภายในกองทุนมีทั้งตราสารหนี้เก่า (ไม่ถูกหักภาษี) และตราสารหนี้ใหม่ (ถูกหักภาษี) นอกจากนั้น ยังมีการผ่อนผันการบังคับใช้ไปอีก 3 เดือนหลังประกาศ ทำให้กองทุนมีระยะเวลาปรับตัวในการส่งผ่านภาระภาษีไปยังผู้เสนอขายตราสารหนี้ ส่วนความกังวลว่าผลของภาษีจะทำให้กองทุนรวมตราสารหนี้จะมีผลดำเนินงานติดลบหรือไม่นั้นมี 2 ส่วน คือ 1.กำไรขาดทุนจากการประเมินมูลค่ายุติธรรม และ/หรือ กำไรขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงจากการซื้อขาย 2.รายได้ดอกเบี้ยรับ เมื่อมีการเก็บภาษีตราสารหนี้จากดอกเบี้ยรับของกองทุนรวม ก็จะเป็นผลให้ส่วนรายได้ดอกเบี้ยรับน้อยลง แต่ไม่ถึงกับติดลบ ดังนั้น การเก็บภาษีไม่มีผลให้กองทุนรวมขาดทุนหรือมีผลการดำเนินงานติดลบ จึงไม่ควรตื่นตกใจและขายกองทุนด้วยเหตุผลดังกล่าว” นายวศิน กล่าว

ด้านการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนตราสารหนี้ (ดูตาราง) พบว่ากองทุนรวมตราสารหนี้มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 2.51 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ ธ.ค.61) โดยประเมินว่าการจัดเก็บภาษีเงินได้จากกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารหนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินที่จะไหลเข้ามาในอุตสาหกรรม เนื่องจากในแต่ละปีมีเงินลงทุนใหม่ (New Money) เข้ามาลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ปีละประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท รวมทั้ง หากโยกย้ายเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ก็มีเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาไม่ต้องจ่ายภาษี เงินปันผล หรือภาษีกำไรจากส่วนต่างของราคา เนื่องจากได้มีการหักภาษีไว้ในระดับกองทุนแล้ว ส่วนตราสารหนี้ที่ถือครองมาก่อนวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้จะยังได้รับการยกเว้นภาษีเหมือนเดิม รวมถึงกองทุนรวมที่กำหนดช่วงระยะเวลาไถ่ถอน (Term Fund) หากจัดตั้งและลงทุนก่อนวันที่กฎหมายมีผลบังคับ ผู้ถือหน่วยจะยังคงได้รับผลตอบแทนรวมตามอัตราที่บลจ.เคยระบุไว้เช่นเดิม แต่เนื่องจากระบบการจัดเก็บภาษีดอกเบี้ยเป็นแบบหักและขอคืน ผู้ออกตราสารหนี้จึงต้องหักภาษีดอกเบี้ย 15% ณ ที่จ่ายไวก่อน ทำให้เมื่อครบรอบการลงทุน ผู้ลงทุนจะได้รับคืนเงินต้นและดอกเบี้ยที่ถูกหักภาษี เมื่อบลจ.ขอคืนเงินจากกรมสรรพากรแล้วจะนำส่งเงินเพิ่มเติมให้กับผู้ถือหน่วยต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0