โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"สมศักดิ์" เช็กความพร้อมประมูลทรัพย์สินขายทอดตลาด กำชับช่วยเหลือ SMEs

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 29 พ.ค. 2563 เวลา 15.57 น. • เผยแพร่ 29 พ.ค. 2563 เวลา 15.57 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

"รมว.ยุติธรรม" ควง "ปลัด ยธ." ตรวจความพร้อมการประมูลทรัพย์ หลังหยุด 3 เดือน เพราะพิษ "โควิด" คาดได้เงินค่าธรรมเนียมเข้าแผนดินกว่า 500 ล้านบาท พร้อมเร่ง "กรมบังคับคดี" อธิบายแนวทางช่วยเหลือ SMEs  

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.63 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เดินทางตรวจความพร้อมการเปิดขายทอดตลาดทรัพย์สินทั่วประเทศ ที่จะเริ่มขายตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป หลังปิดการประมูลทรัพย์มา 3 เดือน จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 โดยมี นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีและผู้บริหารกรมบังคับคดีให้การต้อนรับ 

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ได้เดินตรวจความพร้อมทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง โดยกล่าวว่า น่าพอใจในการเตรียมความพร้อม ซึ่งอยู่ในมาตรการแบบวิถีใหม่ เช่น ผู้เข้าร่วมการประมูล ลงทะเบียนเข้าออก ผ่าน www.ไทยชนะ.com/มีช่องทางซื้อทะเบียนล่วงหน้าผ่านอิเล็กทรอนิกส์ หน้าเว็บไซต์กรมบังคับคดี เพื่อลดความแออัด/สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะไม่อนุญาตให้เข้าร่วม/จัดตรวจร่างกายบริเวณทางเข้าห้องขายทอดตลาด/จัดที่นั่งมีระยะห่าง 1-2 เมตร/จัดการขายทอดตลาดทีละชุด แล้วทำความสะอาดห้องก่อนขายในชุดต่อไป

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การเปิดประมูลทรัพย์ในรอบเดือน มิ.ย.63 นี้ จะมีทรัพย์ประเภทที่ดินว่างเปล่า/ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง/ห้องชุด/และทรัพย์สินอื่นๆ ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศจะมีการประมูลทรัพย์สินทั้งสิ้น 9,874 รายการ ราคาประเมินรวม 14,267,227,735.19 ล้านบาท ในส่วนของกรุงเทพฯมีการประมูลทรัพย์สินทั้งสิ้น 1,094 รายการ มูลค่า 3,834,159,310.84 ล้านบาท ราคาประเมินรวมทั้งสิ้น 18,101,387,046.03 ล้านบาท คาดการณ์ว่าจะมีเงินค่าธรรมเนียมที่ได้จากการขายทอดตลาด (ร้อยละ 3 ของจำนวนเงินที่ขายได้) เพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน กว่า 500 ล้านบาท โอกาสนี้ตนจึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่สนใจ สามารถเข้าร่วมการประมูลทรัพย์ได้เพราะมาตรการต่างๆในเรื่องการป้องกันเชื้อโควิด-19 เราวางอย่างมีมาตรฐาน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนได้กำชับกรมบังคับคดีเร่งอธิบายการช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่ประสบปัญหาทางการเงิน กรณีบุคคลธรรมดาต้องมีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท คณะบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือนิติบุคคลตามกฎหมายอื่น มีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท ส่วนบริษัทจำกัดต้องมีจำนวนหนี้ไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท และไม่สามารถชำระหนี้ได้ทัน สามารถยื่นขอทำการฟื้นฟูกิจการเพื่อที่จะไม่ต้องล้มละลาย โดยหากศาลสั่งรับคำฟ้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว ภาระการชำระหนี้และดอกเบี้ยจะถูกหยุดไว้ และหากศาลมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการและเห็นชอบด้วยแผน ผู้บริหารที่ระบุไว้จะดำเนินการฟื้นฟูภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผน แต่ไม่เกิน 3 ปี โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่มีความประสงค์จะยื่นเรื่องขอฟื้นฟูกิจการนั้น สามารถประสานกรมบังคับคดีได้ที่ 1111 กด 79 หรือ www.led.go.th

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0