โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

'สมศักดิ์' วางไทมไลน์ชดใช้เหยื่อ คดีแพรวา 28 ส.ค.นี้ ทนายลั่นไม่เจรจาแล้ว!

Khaosod

อัพเดต 23 ก.ค. 2562 เวลา 07.03 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 07.03 น.
23-วางไทม์ไลน์ชดใช้

‘สมศักดิ์’ วางไทมไลน์ชดใช้เหยื่อ คดีแพรวา แนะขายที่ดินให้ได้เร็วที่สุด ระบุเกิน 28 ส.ค.นี้ต้องเข้าสู่การบังคับคดี ด้าน ทนายโจทก์ ลั่น! ไม่ไกล่เกลี่ย ถ้าล้มละลายตามขุดหาทรัพย์แน่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ดร.กรศุทธิ์ ขอพ่วงกลาง ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้แทนจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกันแถลงกรณีการช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีของ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ น.ส.รวินภิรมย์​ อรุณวงศ์ หรือ แพรวา ที่ขับรถชนรถตู้เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อ 9 ปีก่อน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมกับศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการหารือร่วมกันเพื่อรับทราบแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับคดีอุบัติเหตุฯ ซึ่งพบว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ 25 ราย และมีจำเลย 4 ราย ศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้มีการส่งคำบังคับให้จำเลยทั้ง 4 ราย รับทราบแล้ว ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในแต่ละคดี *รวมเป็นเงินประมาณ 21.9 ล้านบาท *

และให้จำเลยที่ 4 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 จำนวน 2.8 ล้านบาท รวมค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1-4 ต้องร่วมกันชำระ จำนวนประมาณ 25 ล้านบาท ซึ่งจะต้องชำระพร้อมดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 2553 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ ซึ่งเมื่อคำนวณจนถึงปัจจุบัน (เดือนกรกฎาคม 2562 ) จำเลยทั้ง 4 จะต้องชำระหนี้รวมเป็นเงินประมาณ 41 ล้านบาท

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 ราย อยู่ต่างจังหวัด 2 ราย ต้องส่งหมายไปตามภูมิลำเนา จำเลยที่ 4 ปิดหมาย 6 ก.ค. จำเลยที่ 1 และ 3 ปิดหมาย 3 ก.ค. ทั้งนี้ คำบังคับคดีจะครบกำหนด ในวันนี้ 28 ก.ค.นี้ จากนั้นจำเลยมีเวลา 30 วัน จะครบกำหนดจ่ายชดเชย คือ 28 ส.ค.นี้ ตามกำหนดของกฎหมาย หากผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าว จากนั้นโจทก์จะต้องขอกำหนดตัวเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อเริ่มต้นการเช้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดี

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ศาลฎีกามีคำสั่งและส่งคำบังคับให้จำเลยทั้งสี่คนตามภูมิลำเนาของจำเลย ซึ่งจำเลยที่ 2 และ 4 มีการปิดหมายคำสั่งเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2562 ส่วนจำเลยที่ 1 และ 3 มีการปิดหมายคำสั่งเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2562 หลังจากปิดหมายแล้วจะนับไปอีก 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดที่หมายบังคับคดีจะมีผลในวันที่ 28 ก.ค. 2562

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โดยจำเลยจะต้องเริ่มดูแลชดใช้เงินเยียวยาให้โจทก์ภายใน 30 วัน หรือภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้ หากจำเลยไม่ชดใช้เงินค่าเสียหายให้โจทก์ภายในระยะเวลาดังกล่าว จะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนที่ทนายโจทก์ขอศาลออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อให้มีอำนาจสืบทรัพย์ เมื่อได้ทรัพย์แล้วจะตั้งเรื่องให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์เพื่อประกาศขายทอดตลาดในเบื้องต้นเราจะดำเนินการตามไทม์ไลน์โดยรอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายภายในวันที่ 28 ส.ค.นี้ก่อน หากไม่เป็นไปตามนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการสืบทรัพย์บังคับคดี

“ตอนนี้ยอดชำระตามกฎหมายอยู่ที่ 41 ล้าน รวมดอกเบี้ย หากล่าช้าออกไปภาระก็จะตกอยู่ที่จำเลย จึงอยากแนะนำให้รีบขายที่ดินให้ได้โดยเร็ว ถ้าจำเลยขายได้เร็ว ก็จะเป็นประโยชน์ ถ้าช้ากว่านี้ภาระดอกเบี้ยจะต้องอยู่ที่จำเลย” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานะของคดีในปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการบังคับคดี ซึ่งโจทก์ได้มอบให้ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้แทนในการดำเนินการ โดยกระทรวงยุติธรรม สามารถให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีในชั้นบังคับคดีผ่านกองทุนยุติธรรมสำหรับเป็นค่าจ้างทนายความ ค่าธรรมเนียมในการบังคับคดี และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี

รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันก็จะมีสำนักงานยุติธรรมจังหวัดช่วยประสานงานอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เสียหายที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดต่าง ๆ ในการยื่นคำขอรับการสนับสนุนจากกองทุนยุติธรรม และช่วยติดตามแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ให้ผู้เสียหายได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง หากจำเลยไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ก็จะมีการยื่นขอให้ศาลออกหมายบังคับคดี ซึ่งกรมบังคับคดีจะสามารถดำเนินการยึดทรัพย์ได้ทันที

ด้าน ดร.กรศุทธิ์ กล่าวว่า หลังศาลฎีกามีคำพิพากษายังไม่ได้รับการติดต่อโดยตรงจากทนายจำเลย ซึ่งในส่วนของโจทก์ก็ไม่ต้องการเจรจา แต่ต้องการเข้าสู่ขั้นตอนการบังคับคดีตามกฎหมาย ส่วนเงิน 5 แสนบาทที่ราชตระกูลเทพหัสดินจะบริจาคให้ พวกโจทก์ไม่ต้องการ แต่ถ้าต้องการบริจาคจริงๆ ก็ต้องทำเอกสารระบุให้ชัดเจนว่าบริจาคเพื่ออะไร โดยต้องไม่ใช่การไกล่เกลี่ยหรือการชำระหนี้แทนจำเลย

ดร.กรศุทธิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ หากคดีเข้าสู่ขั้นตอนการฟ้องล้มละลาย ทีมทนายโจทก์จะตรวจสอบว่าระหว่างการดำเนินคดี 9 ปี ทรัพย์ของพวกจำเลยถูกโอนย้ายไปไว้ที่ไหนบ้าง และจะขอให้เพิกถอนทรัพย์นั้นกลับมาเป็นของจำเลย

ส่วนที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรมว.ยุติธรรม ได้โพสข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า หากฝ่ายจำเลยไม่ชำระหนี้ตามคำสั่งศาลก็สามารถขอให้เพิกถอนการลงอาญา นายวีระศักดิ์ ทัพขวา ทีมทนายความโจทก์ กล่าวว่า ตามกระบวนการคดีอาญาได้จบลงไปแล้ว ศาลพิพากษาให้รอลงอาญา และสั่งให้จำเลยเข้าสู่กระบวนการคุมพระพฤติ โดยบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งจำเลยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลจบลงแล้ว จึงไม่สามารถขอให้เพิกถอนการรอลงอาญาได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0