วันนี้(12 พ.ย.62)นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ย้ำว่า การออกหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ก่อนจะย้ำว่า การดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความรัดกุม และมีมูลเพียงพอจนนำไปสู่การอนุมัติหมายจับของศาล และหลังจากนี้ ยังคงต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อความสมบูรณ์ของคดี ส่วนการจะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในฐานะกำกับดูแลกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวยืนยันว่า ไม่ได้มีการกำกับคดีนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นอำนาจของดีเอสไอ จึงขอให้เป็นเรื่องของกระบวนยุติธรรม โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม พร้อมยอมรับคำตัดสินของศาล
ส่วนการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาปัญหา และแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ยอมรับว่า ได้หารือร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะสัดส่วนกรรมาธิการฯ และให้ข้อสังเกตว่า ควรมีสัดส่วนของสมาชิกวุฒิสภาเข้ามาร่วมด้วย เพื่อลดความขัดแย้ง แต่อยู่ที่วิป ส.ว.จะพิจารณา ทั้งนี้ไม่อยากให้มองว่า การที่มีสัดส่วน ส.ว.จะเป็นเรื่องที่มีส่วนได้-ส่วนเสีย แต่เป็นเรื่องความเหมาะสมตามสัดส่วน
แม้ว่าพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ จะปฎิเสธให้ความชัดเจนถึงการทาบทามบุคคลนอกเป็นประธานกรรมาธิการฯ
แต่นายนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม ในฐานะกรรมการยุทธสาสตร์พรรคพลังประชารัฐ กล่าวยอมรับว่า มีการทาบทามผู้มีความเหมาะสมเป็นประธานกรรมาธิการ 2 ถึง 3 คน ซึ่งมีทั้งบุคลนอก และคนในพรรค แต่ปฏิเสธจะเปิดเผยรายละเอียด โดยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี จะนำรายชื่อหารือกับนายกรัฐมนตรี และน่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า
ขณะที่การประชุม ครม. มีวาระพิจารณาเกี่ยวข้องกับพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 คือ จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสุพรรณบุรี โดยกระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอโครงการเบื้องต้นด้านโครงสร้างพื้นฐาน แบ่งเป็นโครงข่ายทางบก จ.กาญจนบุรี ประกอบด้วย การศึกษาโครงข่ายถนน เชื่อมเส้นทาง WEC ในพื้นที่ กาญจนบุรี ราชบุรี และ สุพรรณบุรี งบประมาณ 22,000 ล้านบาท
พร้อมเสนอแผนพัฒนาโครงข่าย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โครงการมอเตอร์เวย์สาย M81 นครปฐม-ชะอำ วงเงิน 80,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) มาแล้ว