นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังร่วมประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง เตรียมทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 63 เพื่อประคองเศรษฐกิจไปต่อเนื่องจากปีนี้ หลังจากมองว่า เศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะยังไม่ฟื้นตัว และการส่งออกจะยังไม่ดี จึงต้องมีการดูแลเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปต่อไปได้ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน เช่นเดียวกับการจัดเก็บรายได้ 3 กรมภาษี ก็จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
อย่างไรก็ตามยืนยันภาพเศรษฐกิจภายในเริ่มดีขึ้น ทั้งในส่วนของกำลังซื้อผู้บริโภค เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการบริโภคตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการชิมช้อปใช้ ขณะที่การลงทุน ก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่ 2 ใน 5 ด้านดิจิทัลระดับโลกทั้ง ไมโครซอฟท์ และอะเมซอน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากสหรัฐ แสดงความจำนงลงทุนในไทย และขอให้รัฐช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมให้
นายสมคิด ได้ปฏิเสธถึงกรณีเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัมระบุว่า ไทยมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ 5 ด้าน ได้แก่ เศรษฐกิจฟองสบู่ ความล้มเหลวรัฐบาล การโจมตีไซเบอร์ ภัยพิบัติทางธรรมชาติและมนุษย์ และความไม่มั่นคงทางสังคมว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง เพราะความเสี่ยงที่บอกมาเป็น ผลการสำรวจความเห็นของนักลงทุนที่ประเมินถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เพราะเวลาสำรวจก็มีให้เลือก 30 ข้อ หากข้อไหนเลือกกันมากก็นำมาจัดอันดับแค่นั้น