นายสิทธิพร จริยพงศ์ รองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โครงการประกันรายได้ปาล์มไม่ได้เข้าร่วมประชุมเคาะราคาชดเชยแล้ว เพราะฝ่ายภาครัฐร่างไว้หมดแล้วนำเราไปประทับตรายางให้แค่มีตัวแทนเกษตรกรแค่นั้นเองไม่มีหลักการอะไรที่แตกต่างกันเลย ในเรื่องของการประกันราคา ก็แค่ราคา 4 บาท/กิโลกรัมมาตั้ง เอาราคาเฉลี่ย 45วันย้อนหลัง ไปหารก็เป็นราคาเฉลี่ย แล้วรัฐบาลก็ชดเชยส่วนต่าง
ปัจจบันราคาขยับเป็นเพราะผลผลิตมีน้อย กับราคาโลกขยับขึ้น ซึ่งในส่วนตัวผมไม่ได้มีอะไรคัดค้าน ผมมองว่าพยุงราคาให้เกษตรกรสั้นๆ ผมโอเค แต่ว่าการทำราคาปาล์มให้เป็น DOUBLE STANDARDหรือ 2 ราคา โดยแบ่งเป็นราคาตลาดอีกราคาหนึ่ง และราคาประกันอีกราคาหนึ่ง ซึ่งผมไม่เห็นด้วย เพราะสินค้าเหมือนกัน คุณลักษณะเหมือนกัน แต่ว่าเป็น 2 ราคา ดังนั้นการพัฒนาการตลาดและการผลิตคุยกันยาก ซึ่งสภาเกษตรกรมุ่งยกระดับคุณภาพปาล์มเพื่อให้เท่าเทียมกับประเทศมาเลเซีย โดยมุ่งการขายผลักดันคุณภาพปาล์มไปถึง 18% เป็นที่ยอมรับ จนผลักคุณภาพเปอร์เซ็นต์ปาล์มไปถึง 23% ราคา 4 บาท/กิโลกรัมได้อยู่แล้ว แต่นโยบายรัฐบาลประกันราคาให้ 4 บาท/กิโลกรัมไม่ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวนี้เลย
ดังนั้นการพัฒนาคุณภาพไปหยุดแค่ 18% เท่านั้น แล้วได้ไม่เกิน 25 ไร่ต่อครัวเรือน คนที่ดูแลได้ทั้งหมดแค่ 20-30% ของประเทศ แต่อีก 70% ไม่ได้ คนที่ไม่ได้จะได้อีกราคาหนึ่ง ก็คือคือราคาท้องตลาด คนที่ได้ก็คือราคาประกัน ทั้งนี้สินค้าเดียวกันเป็นมาตรฐาน 2 ราคา ซึ่งจริงไม่สมควรใช้ ถ้าจะช่วยจริงก็แค่ช่วยปัจจัยการผลิตก็เพียงพอแล้ว อาทิ ชดเชยค่าแรงงาน ค่าปุ๋ย แต่ว่าราคาปล่อยไปตามกลไก แต่ประชาธิปัตย์ไม่ชอบ เค้าชอบแต่เอาผลลัพทธ์ปลายๆ เป็นแค่ระยะสั้นๆ เท่านั้นระยะยาวทำไม่ได้รัฐบาลไม่มีเงิน!
