วันนี้ (19 ต.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วันที่ 3 ช่วงบ่าย ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) อภิปรายเน้นถึงการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษา ที่คาดว่าจะไม่เพียงพอ พร้อมกับเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งตามมาตรา 44 ซึ่งประกาศใช้ยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อคืนสำนักงานเขตการศึกษา โดยนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายให้ยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 ที่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากผลของคำสั่งดังกล่าวได้ยกเลิกผู้แทนครู และตั้งผู้แทนระดับจังหวัดทำให้การทำงานพบความขัดแย้ง ทำให้การจัดการศึกษามีปัญหา และขอให้ใช้การจัดการศึกษาแบบกระจายอำนาจ ทั้งนี้ตนขอเรียกร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอย่ายุบโรงเรียนขนาดเล็กในชนบท เพราะตัวเลขการสอบโอเน็ต และเอเน็ต ระบุว่าโรงเรียนขนาดเล็กมีศักยภาพมากกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่
ต่อจากนั้น บรรยากาศการประชุมเริ่มมีประเด็นโต้เถียง ระหว่างการได้สิทธิชี้แจงของกลุ่มพรรคฝ่ายค้าน หลังจากที่ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลกล่าวพาดพิงการทำงานของฝ่ายค้าน ในยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล โดยเริ่มจากการอภิปรายของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายกรณีที่รัฐบาลปัจจุบันต้องกู้เงินมาบริหารประเทศ เพราะมีความจำเป็นและการกู้เงินนั้นมีขึ้นกับทุกรัฐบาล
ส่วนภาระหนี้สินที่มี เกิดจากปัญหาทุจริต คอร์รัปชั่น เช่น การโกงจำนำข้าว มูลค่า 6 แสนล้านบาท, โกงหวยบนดิน โดยเฉพาะรัฐบาลชุดที่มีนายกฯ หนีไปต่างประเทศ และทิ้งภาระหนี้สินไว้ให้กับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำให้ต้องตั้งงบประมาณมากถึง 4.6 หมื่นล้านบาทชดใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าว ขณะที่คนโกงหนีไปต่างประเทศ