วันนี้ (8 ก.ค.63) นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความกังวลถึงตัวเลขนักศึกษาจบใหม่ปีการศึกษา 2563 จำนวน 500,000 คนที่อาจกลายเป็นผู้ว่างงานถาวร เนื่องจากผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้นายจ้างไม่มีนโยบายรับคนเพิ่ม แม้ว่ารัฐจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์สู่เฟส 5 ทำให้ธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินกิจการปกติ แต่ภาพรวมธุรกิจก็ไม่ได้กลับมาดำเนินธุรกิจได้เหมือนเช่นก่อนโควิด-19 ส่งผลให้แรงงานไม่รวมเด็กจบใหม่ที่เหลือของปีนี้ยังคงมีอัตราว่างงานประมาณ 3.5-3.6 ล้านคน
นายธนิต กล่าวต่อว่า ทางสภานายจ้างฯ เป็นห่วงเด็กจบใหม่ปีนี้ 500,000 คน ที่หากปล่อยว่างงาน 1-2 ปีจะตกงานถาวร โดยมองว่ากลุ่มเด็กที่จบมาในสาขาที่ดีๆ อาจถูกดึงตัวไปทำงานได้อย่างเก่งก็ราว 20% ส่วนที่เหลืออีกราว 400,000 คน จะตกงานถาวร เนื่องจากส่วนหนึ่งจบอุดมศึกษาที่ไม่ตรงกับความต้องการของนายจ้าง และผลกระทบของโควิด-19
ขณะที่ นายจ้างมีจำนวนน้อยมากที่จะรับพนักงานเข้าทำงานเพิ่ม เนื่องจากต้องลดขนาดธุรกิจลงให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและเศรษฐกิจทั้งไทยและโลก ที่คาดว่าจะถดถอยและยังไม่รู้ว่าโควิด-19 จะจบเมื่อใด
นอกจากนี้ เด็กที่จบใหม่หากว่างงานไปนานๆ เท่ากับขาดประสบการณ์ เมื่อมีเด็กจบใหม่ในปี 2564 เข้ามาเพิ่มอีกราว 4-5 แสนคนก็จะส่งผลให้นายจ้างจะไปเลือกรับเด็กที่จบใหม่ล่าสุดมากกว่า
ดังนั้น จึงเห็นว่าภาครัฐบาลควรจะมีมาตรการที่จะมาดูแลเด็กจบใหม่ของปี 2563 เพื่อให้เกิดการฝึกทักษะแรงงานระหว่างรองานใหม่เช่น อาจมีงบประมาณจ้างเด็กไปทำงานสำรวจและวิจัย จ้างฝึกงานโดยรัฐอาจอุดหนุนครึ่งหนึ่ง เอกชนครึ่งหนึ่ง หรืออุดหนุนทั้งหมดเช่นวันละ 200-300 เป็นต้น
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline