วันนี้ (2 เม.ย.2563) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ แถลงข่าวเตรียมพร้อมเปลี่ยนโรงแรมเป็น Hospitel ช่วยลดแออัดโรงพยาบาล โดยเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและโรงแรมภาคเอกชน
นายสาธิต ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนการจัดการเตียงรองรับผู้ป่วย โดยเน้นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไม่รุนแรงที่มีมากถึงร้อยละ 80 โดยจะขอความร่วมมือจากทุกโรงพยาบาล ในการทำงานร่วมกัน และในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสถานประกอบการโรงแรม 2 บริษัท ในการจัดการบริหารเตียงคนไข้ ในลักษณะของ Hospitel โดยโรงแรม ปริ้นตั้น มีจำนวน 200 ห้องพัก รองรับผู้ป่วยแล้วในขณะนี้จำนวน 50 คนและเตรียมเข้าพักเพิ่มอีกประมาณ 10 คน ส่วนโรงแรมเดอะพาลาสโซ และโรงแรมในเครือ มีห้องพัก 439 ห้อง
ภาพรวมขณะนี้มีจำนวนห้องพักของโรงแรมต่างๆ ประมาณ 800 ห้อง พร้อมรองรับผู้ติดเชื้อได้ และมั่นใจจะนำผู้ติดเชื้อมากักตัวดูแลอาการ และเฝ้าระวังการแพร่ระบาด
กระทรวงสาธารณสุข มั่นใจว่า สามารถรองรับผู้ป่วย ได้ใน 2 กรณี คือ กรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าคนไข้เข้าข่ายการกักตัวเพราะเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องเข้ากักตัวสังเกตอาการ 14 วัน ส่วนอีกกลุ่ม คือ ผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมแม้ว่าแพทย์ยังไม่วินิจฉัยว่าต้องกักตัวก็สามารถเข้ากักตัวเอง ตามสถานพยาบาลที่เข้าร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อสังเกตอาการได้
ขอให้สังคมเข้าใจในสถานการณ์ ที่มีความจำเป็นต้องมีสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อ และขอให้ชุมชนรอบข้างเข้าใจ และยอมรับการอยู่ร่วมกันให้ได้
ด้าน อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อธิบายว่า หลักเกณฑ์ในการพิจารณาสถานประกอบการ ที่จะเข้าร่วมเป็น Hospitel ต้องมีจำนวนห้องพักไม่น้อยกว่า 30 ห้องขึ้นไป มีใบอนุญาตถูกต้อง มีโครงสร้างอาคาร และอุปกรณ์ต่างๆที่พร้อมสะดวกในการสนับสนุนภารกิจ โดยเฉพาะในเรื่องของสุขอนามัย ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข จะพิจารณาค่าตอบแทนให้กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมตามความเหมาะสม
ขณะที่ อธิบดีกรมการแพทย์ ยืนยัน มีหลักเกณฑ์พิจารณา ผู้ป่วยที่จะเข้าสังเกตุอาการที่ Hospitel ต้องผ่านการนอนรักษาที่โรงพยาบาลหลักมาแล้วอย่างน้อย 1 อาทิตย์ และต้องไม่มีอาการไข้แล้ว ต้องมีการประเมินสภาพจิต และหากมีโรคประจำตัว ต้องมียารักษาโรคมาให้พร้อม และสุดท้ายหากคนไข้มีอาการทรุดลง ทางโรงพยาบาลหลักต้องยินดีที่จะรับตัวกลับไปรักษาเช่นเดิม
นอกจากนี้ ยังจัดเตรียมแพทย์พยาบาลในการดูแลคนไข้ และขอให้ในห้องพักจัดเตรียมอุปกรณ์วัดไข้ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเอ็กซเรย์ปอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาดูแลคนไข้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ด่วน! นายกรัฐมนตรี สั่งปิดเมืองสกัดโรค 2-15 เม.ย.นี้
ส่องดรามาเสื้อกันฝนหมอ-ตร.ป้องกัน COVID-19
"เรือแสนแสบ-รถเมล์" แออัด สวนทาง Social Distancing
