หลังนักวิทยาศาสตร์ 239 คน จาก 32 ประเทศ เปิดเผยหลักฐานการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19 ) ผ่านละอองฝอยขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน สามารถแพร่ผ่านทางอากาศ (AirBorne) จึงเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ยอมรับว่าโควิด-19 มีการติดต่อในรูปแบบแอร์บอร์น และปรับคำแนะนำนั้น
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ข้อมูลจนถึงขณะนี้โรคโควิด -19 ส่วนใหญ่ยังเป็นการแพร่ผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่กว่า 5 ไมครอน จากการไอ จาม และในระยะ 1 เมตร (Droplet) ส่วนการแพร่กระจายทางอากาศหรือ แอร์บอร์นนั้น เกิดขึ้นในโรงพยาบาล
ส่วนตัวมองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น มาจากการที่หลายๆ ประเทศไม่สามารถทำให้คนของประเทศตัวเองหันมาสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าได้ ดังนั้นหากบอกว่าเป็นการแพร่ผ่านทางอากาศจะช่วยให้ง่ายต่อการสนับสนุนให้คนในประเทศนั้นๆ หันมาสวมหน้ากากอนามัยกันมากขึ้นซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละประเทศจะจริงจังกับการแก้ไข ควบคุม ป้องกันโรคได้แค่ไหนมากกว่า เพราะถึงแม้ ในบางประเทศต่อให้มีการประกาศว่าโรคนี้แพร่กระจายทางอากาศ แต่ถ้าผู้นำประเทศยังบอกว่าไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย ประชาชนก็คงไม่สวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน
สำหรับประเทศไทยจำเป็นต้องปรับมาตรการอย่างไรหรือไม่ นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ไม่เปลี่ยน เพราะว่าสุดท้ายการสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยแบบที่เราทำกันอยู่นั้น เป็นมาตรการในการป้องกันโรคที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ถ้าเราทุกคนช่วยกันสวมหน้ากากอนามัยกันมากพอก็ป้องกันการแพร่ระบาดได้ดีแล้ว แค่อย่าประมาทมากเกินไปเท่านั้นเอง
