ตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศพบผู้ป่วยยืนยันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศไทยพบยืนยันเชื้อ 5 ราย คือ รายที่ 1 รายที่ 2 เป็นชาวจีนแต่อาการหายดีและกลับประเทศจีนแล้ว ส่วนรายที่ 3 ที่นครปฐมเพิ่งเดินทางกลับ เหลือรายที่ 4 ที่สถาบันบำราศนราดูร ยังอยู่ในห้องแยกโรค ขณะนี้อาการดีขึ้น และรายที่ 5 เพิ่งยืนยันเชื้อเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมาอยู่ห้องแยกโรคที่รพ.ราชวิถี ล่าสุดอาการดีขึ้น อยู่ระหว่างการติดตามและเฝ้าระวังนั้น ปรากฏว่าขณะนี้มีกระแสข่าวออกมาอย่างวงกว้างว่า พบการติดเชื้อในจังหวัดต่างๆของประเทศไทย อย่างล่าสุดพบที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีข่าวว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้น
“อนุทิน” เรียกความเชื่อมั่นคืน! หลังคนเข้าใจผิดยกเลิกคัดกรอง “ไวรัสโคโรนา” สนามบิน
ไทยวางระบบป้องกัน หลังจีนยืนยันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ติดคนสู่คน
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สิ่งที่อยากย้ำและให้ข้อเท็จจริงต่อสังคมคือ กระทรวงฯ ยังมีมาตรการตรวจคัดกรองทุกจุด รวมทั้งท่าอากาศยาน ไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด และผู้ป่วยภายใต้การสอบสวนโรคที่ผ่านมา ขณะนี้เหลือ 20 กว่าราย อาการดีขึ้นและพร้อมกลับประเทศจีนแล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนรายที่หัวหินนั้น ก็เป็นหนึ่งในเคสที่เฝ้าระวัง หรือเคสสอบสวนโรค ซึ่งก็ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน โดยเคสนี้เป็นชาวจีน มีอาการไข้ก็ไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งทางโรงพยาบาลมีระบบในการตรวจสอบ และห้องแยกโรคอย่างดีระหว่างรอผลทางห้องปฏิบัติการ
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย
“ การจะประกาศว่าไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือไวรัสอู่ฮั่นนั้น ให้รอการแถลงอย่างเป็นทางการจาก สธ.ว่ามีทั้งหมดกี่ราย ซึ่งเราไม่มีการปกปิด หากพบก็จะมีการให้ข้อมูลแก่สาธารณะแน่นอน และไทยยังต้องให้ข้อมูลแก่ทางองค์การอนามัยโลก ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศด้วยว่ามีผู้ป่วยกี่ราย
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า สำหรับกรณีผู้ป่วยที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขอทำความเข้าใจว่า เป็นผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (PUI) เนื่องจากเข้าเกณฑ์ทั้ง 3 ส่วน คือ มีไข้ อาการทางเดินหายใจ และมาจากอู่ฮั่น โดยผู้ป่วยมาขอรับบริการที่ รพ. เนื่องจากมีไข้ รพ.เมื่อตรวจสอบคัดกรองได้จึงแจ้งเข้ามา และได้นำผู้ป่วยเข้าห้องแยกโรคความดันเป็นลบตามปกติ และเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ส่วนการจะบอกว่าผู้ป่วยแต่ละรายยืนยันว่าเป็นป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายันธุ์ใหม่ 2019 หรือไม่ ต้องพิจารณาข้อมูล 3 ด้าน คือ 1.อาการทางคลินิกว่าน้อยมากรุนแรงแค่ไหน 2.ข้อมูลทางระบาดวิทยา ติดเชื้อจากไหน สัมผัสกับใคร และ 3.ผลทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งไม่ได้ตรวจเฉพาะเชื้อนี้ แต่ตรวจเชื้อตัวอื่นควบคู่ด้วย เพราะหากไม่พบโคโรนาไวรัสก็ต้องหาตัวอื่นเพื่อรักษาคนไข้ให้หาย
"ข้อมูลทั้ง 3 ด้าน จะถูกนำเอามารวมและเข้าคณะผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส ด้านระบาดวิทยา และด้านคลินิก พิจารณาร่วมกัน ถ้ายืนยันก็จะแถลงให้ทราบ แต่ผู้ป่วยรายที่หัวหินยังไม่ยืนยัน นอกจากนี้ เรายังมีผู้ป่วยภายใต้เกณฑ์การสอบสวนโรคอีกมาก 20 กว่าราย ก็จะทยอยพิจารณาไปเรื่อยๆ ซึ่ง หลายคนอาจไม่ใช่ หรือหลายคนอาจเป็นก็ได้ ขอให้รอแถลงการณ์จะดีที่สุด" นพ.สุวรรณชัยกล่าว และว่า แม้ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคแต่ละราย ที่เรายังไม่แถลงว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ทั้งหมดอยู่ในห้องแยกโรคความดันลบในสถานพยาบาล ไม่มีโอกาสแพร่ใส่ใครขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ส่วนผู้ป่วยเคสที่บำราศเดินทางกลับจีนแล้ว
ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขั้นตอนการแยกโรคนั้น เมื่อพบผู้ป่วยที่มีไข้ มีประวัติการเดินทางเมืองที่ทางการจีนประกาศ ก็จะเข้าสู่ห้องแยกโรค นำเชื้อตรวจสอบว่า มีเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ หากไม่มี เป็นไข้ปกติก็จะอนุญาตให้กลับออกจากรพ.ได้ แต่หากพบเชื้อก็จะเข้าสู่ระบบการแยกโรค จนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือปลอดเชื้อใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีข่าวพบโรคหลายพื้นที่ในประเทศไทย นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า หลักการทั่วไปขอให้ฟังข่าวยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข เราไม่ได้ปกปิดข้อมูลอะไร เมื่อเจอเคสที่ใช่ ทางกระทรวงฯ ก็บอกหมด ดังนั้น แทนที่จะตระหนกกลับข่าวที่รวดเร็ว บ้างก็จริง บ้างก็ไม่จริง ทำให้ตระหนัก ก็มาช่วยกันตระหนักรู้ เป็นหวัดป่วยก็อยู่บ้าน หากจำเป็นต้องไปข้างนอกก็สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ จริงๆ มันคือ โรคระบบทางเดินหายใจ ก็ป้องกันตามที่มีการแนะนำ ไม่ใช่แค่ป้องกันโรคไวรัสโคโรนาเท่านั้น ยังป้องกันโรคหวัด โรคหวัดใหญ่ โรคอื่นๆในระบบทางเดินหายใจได้อีก
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์
เกาะติดสถานการณ์ ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
