นิวเดลี, 29 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (29 พ.ค.) สถาบันวิจัยทางสัตวแพทย์อินเดีย (IVRI) รายงานว่าเหตุค้างคาวตายกะทันหันเป็นจำนวนมากในรัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของอินเดีย มีแนวโน้มที่จะมีสาเหตุจากโรคลมแดด
การตรวจสอบตัวอย่างซากค้างคาวและตัวอย่างของเหลวจากซากค้างคาวได้ลบล้างข้อสันนิษฐานที่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนาอาจเป็นสาเหตุเบื้องหลังการตายเฉียบพลันของค้างคาว
"การตรวจสอบเบื้องต้นเผยว่าสาเหตุที่ฝูงค้างคาวตายเป็นจำนวนมากเกิดจากเลือดคั่งในสมองเพราะความร้อนสูงเกินไป" อาร์ เค สิงห์ (R K Singh) ผู้อำนวยการสถาบันฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวทางโทรศัพท์ "ตัวอย่างที่นำมาตรวจมีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นลบ และเรากำลังทำการตรวจสอบต่อไป"
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุค้างคาวหลายสิบตัวตายที่ย่านเพลฆาฏ (Belghat) เมืองโครขปุร (Gorakhpur) รัฐอุตตรประเทศ ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดวิตก
สิงห์ระบุว่าไม่พบร่องรอยของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือเชื้อพิษสุนัขบ้าในค้างคาวที่ตาย
"เป็นที่ยอมรับกันในระดับสากลว่าค้างคาวมีระดับภูมิคุ้มกันสูง และเชื้อก่อโรคชนิดใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นไวรัสหรือแบคทีเรีย ล้วนไม่กระทบต่อค้างคาว แม้ว่ามันอาจจะเป็นพาหะของไวรัส" สิงห์กล่าว "จากตัวอย่างที่ตรวจ เราไม่พบไวรัสหรือแบคทีเรียที่อาจเป็นสาเหตุการตายของพวกมัน"
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐอุตตรประเทศต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน โดยอุณหภูมิในเมืองโครขปุรเพิ่มขึ้นสูงกว่า 44 องศาเซลเซียส
ขณะเดียวกัน รัฐพิหารที่อยู่ข้างเคียงก็พบค้างคาวตายมากกว่า 200 ตัวเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ การตายอย่างผิดปกติของค้างคาวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อินเดียกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19