กรณี ตำรวจจู่โจมจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีตรมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชาชน กับพวกรวม 6 คน ที่บ้านพักใน จ.นครสวรรค์ หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอุ้มฆ่า นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ เจ้าของสำนวนคดีปลอมแปลงเอกสารการโอนหุ้น นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด กว่า 300 ล้านบาท ซึ่งคดีนี้มี พ.ต.ท.บรรยิน เป็นจำเลยร่วมกับ โบรกเกอร์และพริตตี้สาวคนสนิท
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ก.พ. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.นำหมายค้นศาลเข้าตรวจค้นฟาร์มไก่ธงชัย ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านดอนวัด ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นของ ด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ หรือ สจ.อ๊อด ส.อบจ.นครสวรรค์ หนึ่งในทีมอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโส พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แบบยกสูง 4 ประตู สีขาว 1 คัน และที่ท้ายกระบะบรรทุกรถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีแดง เอาไว้อีก 1 คัน จึงตรวจยึดนำกลับไปตรวจสอบ
โดยขณะเข้าตรวจค้นมี นายสายชล เข็มทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านดอนวัด ต.หนองกรด มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของรถกระบะ และคอยดูแลฟาร์มดังกล่าว เนื่องจากรู้จักและสนิทสนมกับ สจ.อ๊อด โดยรถกระบะคันนี้เป็นรถของตนที่ สจ.อ๊อด ยืมมาใช้นานแล้ว ส่วนรถจยย. เป็นของ สจ.อ๊อด เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นหนึ่งในทีมอุ้มฆ่า และก็ไม่เชื่อด้วยว่า นายชาติชาย เมณฑ์กุล และนายประชาวิทย์ ศรีทองสุข ลูกน้องของ สจ.อ๊อด จะร่วมลงมือ
ด้าน พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวว่า สั่งให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่แสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบสำนวน ในส่วนการค้นพบซากชิ้นส่วนกระดูกที่บริเวณจุดเกิดเหตุทางกองพิสูจน์หลักฐานได้นำไปตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานจะทราบผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ดีขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสอบปากคำไปแล้ว 20 ปาก เหลืออีกประมาณ 40-50 ปาก รวมทั้งจะต้องเชิญแพทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเพื่อรวบรวมในสำนวนคดีต่อไป
จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยิน ได้สั่งให้ ด.ต.ธงชัย หรือสจ.อ๊อด คนสนิท จัดหาคนมาร่วมงานในครั้งนี้ โดยทาง สจ.อ๊อด ได้ติดต่อนายประชาวิทย์ และนายชาติชาย ซึ่งเป็นเด็กในละแวกหมู่บ้านให้มาร่วมงาน หลังจากได้คนแล้วจึงได้ติดต่อให้ นายมานัส ทับนิล ขับรถไปรับ นายประชาวิทย์ และ นายชาติชาย มาที่บ้านของ พ.ต.ท.บรรยิน ภายในซอยรัชดาภิเษก 33 เพื่อร่วมฟังแผนการ
ที่ผ่านมา ด.ต.ธงชัย ไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่การวางแผน รวมถึงวันที่อุ้มนายวีรชัย ไปจนถึงเรื่องการเผานั่งยาง ทั้งนี้เป็นไปตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ รวมทั้งยังมีคำให้การของผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพด้วยว่า ได้รับการติดต่อจาก ด.ต.ธงชัย ให้มาร่วมก่อเหตุ จนเป็นที่มาของการออกหมายจับ ด.ต.ธงชัย ส่วนเรื่องที่บอกว่า ด.ต.ธงชัย ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้บรรยายในสำนวนคำร้องฝากขังศาลอยู่แล้ว
ซึ่งแนวทางสืบสวนดังกล่าวสอดรับกับ ด.ต.ธงชัย ที่ปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในทีมอุ้มฆ่า แต่รับสารภาพตามข้อเท็จจริงว่า ได้รับการว่าจ้างจาก พ.ต.ท.บรรยิน 2 แสนบาท ให้จัดหาลูกน้อง 2 คน โดย ด.ต.ธงชัย จ้างทีมอุ้ม 50,000 บาท บอกเพียงว่าอุ้มไปทวงหนี้ โดยวันเกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยิน แต่งเครื่องแบบตำรวจเดินทางไปด้วย และบอกกับทีมอุ้มว่าจำเป็นต้องแต่งเครื่องแบบ เพื่อให้เป้าหมายกลัว และจะได้ยอมจ่ายเงินคืนให้ ทั้งนี้หลังจากส่งลูกน้องให้ พ.ต.ท.บรรยิน แล้ว ตัวเองจึงได้ใช้ชีวิตตามปกติ โดยไปร่วมงานศพคนในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 4 ก.พ.
ชุดสืบสวนพบหลักฐานยืนยันว่า ช่วงเช้าวันที่ 4 ก.พ. ด.ต.ธงชัย ได้ขับรถกระบะ โตโยต้าวีโก้ สีขาว พานายประชาวิทย์ และนายชาติชาย ออกจากฟาร์มไก่ เพื่อนำทั้ง 2 คน มาส่งขึ้นรถกระบะฟอร์ด สีดำ โดยภายในมี นายมานัส เป็นผู้ขับรถ พ.ต.ท.บรรยิน นั่งข้างคนขับ และนายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ อีกหนึ่งผู้ต้องหา นั่งอยู่ข้างหลัง ก่อนที่ นายชาติชาย และนายประชาวิทย์ จะขึ้นรถ รวม 5 คน ขับเข้ากรุงเทพฯ ไปก่อเหตุ
