โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สงคราม ถั่วเหลือง

ลงทุนแมน

อัพเดต 16 ต.ค. 2561 เวลา 11.56 น. • เผยแพร่ 17 ต.ค. 2561 เวลา 03.10 น. • ลงทุนแมน

สงคราม ถั่วเหลือง / โดย ลงทุนแมน

“อเมริกาต้องมาก่อน หรือ America First”
เป็นสโลแกนที่ทางโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้หาเสียงในช่วงลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในระหว่างปี 2016

ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อชนะการเลือกตั้ง หนึ่งในสิ่งที่เขาเดินหน้าทำอย่างจริงจังก็คือ การเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ที่สหรัฐอเมริกาขาดดุลอย่างมหาศาล

และหนึ่งในนั้นคือ “ประเทศจีน”

แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับถั่วเหลือง?

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า ในปี 2017
สหรัฐอเมริกามีการส่งออกสินค้ามูลค่ารวมทั้งสิ้น 51.2 ล้านล้านบาท
ขณะที่นำเข้าจากต่างประเทศ 77.2 ล้านล้านบาท
หมายความว่า สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้ากว่า 26 ล้านล้านบาท

และประเทศที่สหรัฐอเมริกาขาดดุลการค้ามากที่สุดก็คือ จีน ซึ่งมีจำนวนกว่า 12.4 ล้านล้านบาท คิดเป็น
48% ของการขาดดุลการค้าของสหรัฐอเมริกา หรือพูดง่ายๆ ว่าครึ่งหนึ่งเกิดจากจีน

เมื่อรวมกับปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้าจีน ที่ส่งผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกา จึงทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดศึกสงครามการค้ากับจีนทันที

เริ่มด้วยมาตรการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 1,300 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท โดยเน้นไปที่กลุ่มสินค้าที่จีนได้เปรียบทางเทคโนโลยี

แน่นอนว่าจีนก็ไม่ยอม จึงตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาคืน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 106 รายการ มูลค่ารวมกว่า 1.65 ล้านล้านบาท

และนี่คือจุดเริ่มต้นของ “สงครามการค้า”

ซึ่งสินค้าที่จีนประกาศเก็บภาษีนำเข้า รวมไปถึงสินค้าเกษตรจากสหรัฐอเมริกาและหนึ่งในนั้นคือ ถั่วเหลือง..

ทั้งนี้ ปริมาณการผลิตถั่วเหลืองทั่วโลกในปี 2016 อยู่ที่ 324.2 ล้านตัน

โดยประเทศที่ผลิตถั่วเหลืองมากที่สุดในโลกคือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีปริมาณการผลิต 103.4 ล้านตัน หรือประมาณ 32% ของผลผลิตทั่วโลก

ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ส่งออกถั่วเหลืองมากที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของโลก โดยมีสัดส่วนการส่งออกที่ 37% ของปริมาณการส่งออกถั่วเหลืองในตลาดโลก ซึ่งมูลค่าการส่งออกถั่วเหลืองของประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2017 เท่ากับ 716,000 ล้านบาท

ในสหรัฐอเมริกานั้นรัฐที่ปลูกถั่วเหลืองมากที่สุดอยู่ที่ รัฐมินนิโซตา รัฐไอโอวา รัฐนอร์ทดาโคตา รัฐอิลลินอยส์ รัฐเนบราสกา และ รัฐอินเดียนา รัฐเหล่านี้จึงเป็นรัฐที่ส่งออกถั่วเหลืองมากที่สุด และเป็นรัฐที่เป็นฐานเสียงสำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรครีพับลิกัน

ในส่วนของจีนนั้น ในช่วงระหว่างปี 2010 – 2017 การที่มูลค่าเศรษฐกิจมีการเติบโตกว่าเท่าตัวจาก 201 ล้านล้านบาท มาอยู่ที่ 403 ล้านล้านบาท ทำให้ชนชั้นกลางจำนวนมากมีฐานะดีขึ้น คนจีนจำนวนมากหันมาบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงทำให้อาหารสัตว์ขายดีตามไปด้วย ส่งผลให้มีความต้องการถั่วเหลืองอย่างมหาศาล เนื่องจากถั่วเหลืองเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอาหารสัตว์

พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้จีนเป็นประเทศที่นำเข้าถั่วเหลืองมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ของปริมาณการนำเข้าถั่วเหลืองทั่วโลก

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็สรุปได้ว่า สงครามการค้าในครั้งนี้ จึงเป็นการพบกันระหว่างประเทศที่นำเข้าถั่วเหลืองมากที่สุดเป็นลำดับที่ 1 ของโลกกับประเทศที่ส่งออกถั่วเหลืองมากที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของโลก

ดังนั้น พอสงครามการค้าปะทุขึ้นมา การที่จีนได้ตอบโต้สหรัฐอเมริกา ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐอเมริกา จึงทำให้ตอนนี้ราคาถั่วเหลืองตกต่ำ เพราะเกรงกันว่าความต้องการถั่วเหลืองจากจีนจะลดลงนั่นเอง

สถิติราคาถั่วเหลืองตั้งแต่ปี 2012 – 2017
ปี 2012 ราคาถั่วเหลือง 14.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบูเชล
ปี 2017 ราคาถั่วเหลือง 9.78 ดอลลาร์สหรัฐต่อบูเชล
*บูเชล (Bushel) เป็นมาตราตวงวัดสินค้าประเภท ข้าว, ข้าวโพด, ถั่วเหลือง เทียบเท่ากับ 35.24 ลิตร ในสหรัฐอเมริกา หรือ เทียบเท่ากับ 36.38 ลิตร ในสหราชอาณาจักร

แต่พอเกิดสงครามการค้าขึ้นทุกวันนี้ ราคาถั่วเหลืองในเดือนกันยายน 2561 กลับเหลืองเพียง 8.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบูเชล ซึ่งลงมาเกือบครึ่งหนึ่งของราคาถั่วเหลืองในปี 2012

แน่นอนว่า เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฐานเสียงที่สำคัญของโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย

ก็ไม่รู้ว่า ถ้ามีการสำรวจคะแนนนิยมของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงนี้ กลุ่มเกษตรกรดังกล่าว จะยังนิยมในตัวเขาต่อไปหรือไม่

แต่เราน่าจะรู้คำตอบในเร็วๆ นี้หลังการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งถ้าพรรครีพับลิกันของ โดนัลด์ ทรัมป์ สูญเสียที่นั่งเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากปัญหาราคาถั่วเหลืองก็เป็นได้..
———————-
หากชอบเรื่องนี้ ติดตามบทความอื่นๆ ของลงทุนแมน ได้ที่แอปพลิเคชัน “blockdit” โหลดที่ blockdit.com
ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
.
หนังสือลงทุนแมนไว้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-7.0 ซื้อได้ที่ลิงก์นี้ lazada.co.th/shop/longtunman
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
———————-

References
-https://en.wikipedia.org/wiki/Soybean
-https://www.statista.com/statistics/192076/top-10-soybean-producing-us-states/
-https://www.cheatsheet.com/culture/trump-lost-most-support-states-november-2016.html/
-http://www.worldstopexports.com/soya-beans-exports-country/
-https://tradingeconomics.com/china/gdp
– https://tradingeconomics.com/commodity/soybeans
-https://www.ers.usda.gov/topics/crops/soybeans-oil-crops/related-data-statistics/
-https://www.macrotrends.net/2531/soybean-prices-historical-chart-data
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_the_largest_trading_partners_of_the_United_States
-https://www.bbc.com/thai/international-45560578
-https://www.intergold.co.th/investor_core

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0