โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินฝุ่นกระทบเศรษฐกิจ 3,200-6,000 ล้านบาท

สยามรัฐ

อัพเดต 22 ม.ค. 2563 เวลา 12.21 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2563 เวลา 12.19 น. • สยามรัฐออนไลน์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินฝุ่นกระทบเศรษฐกิจ 3,200-6,000 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินฝุ่น PM 2.5 รุนแรงขึ้น จี้รัฐบาลเร่งออกมาตรการแก้ไข ชี้กระทบเศรษฐกิจ 3,200-6,000 ล้านบาท

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าจากการที่ภาครัฐออกมาตรการเป็นรูปธรรมผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ต่อเศรษฐกิจน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,200 –6,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับกรอบระยะเวลา 1 เดือน ในช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นค่าเสียโอกาสทางด้านสุขภาพ ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าหน้ากากอนามัย เครื่องฟอกอากาศ 2,000-3,000 ล้านบาท ค่าเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยว 1,000-2,400 ล้านบาท และค่าเสียโอกาสภาคธุรกิจอื่นๆเช่น ร้านอาหารข้างทาง สวนอาหาร ตลาดนัด 200-600 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามนับเป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่คงจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาคเอกชนและประชาชน เพื่อให้ปัญหาทุเลาลงในส่วนที่จะสามารถทำได้ อาทิ ภาคเอกชน ทั้งการตรวจสอบสภาพรถยนต์ การบริหารจัดการงานก่อสร้าง และกิจการโรงงานอุตสาหกรรม ขณะที่ในส่วนของภาคประชาชนและเกษตรกร อาทิ การไม่เผาขยะ หญ้าแห้ง หรือพืชผลทางการเกษตรต่างๆ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในช่วงสถานการณ์วิกฤติ ได้แก่ 1.ขยายเขตพื้นที่จำกัดรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ จากวงแหวนรัชดาภิเษก เป็นวงแหวนกาญจนาภิเษก 2.ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯในวันคี่ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ.63 สำหรับวันคู่ให้เข้าได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด 3.ตรวจวัดควันดำรถโดยสาร(ไม่ประจำทาง) รถโดยสารและรถบรรทุก 4.ตรวจสอบโรงงานที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองหากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน 5.กำกับให้กิจกรรมการก่อสร้างรถไฟฟ้าและก่อสร้างอื่นๆ เป็นไปตามข้อกำหนดไม่ทำให้เกิดฝุ่นและปัญหาการจราจร 6.ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

7.จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาศัยอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องควบคุมการเผาในที่โล่งในช่วงสถานการณ์วิกฤติฝุ่นละอองและเข้มงวดการควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง 8.ลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 PPM ซึ่งเป็นน้ำมันที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองน้อย 9.ขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาทำงานและรถยนต์ของส่วนราชการต้องผ่านมาตรฐานควันดำทุกคัน 10.ให้ภาครัฐ ภาคเอกชนและสถานศึกษาสนับสนุนการจัดโครงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ดีเซลที่มีอายุเกิน 5 ปี เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง 11.สร้างการรับรู้และเข้าใจแก่ประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0