โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เตือนอย่าแชร์! "รัฐบาลเตรียมประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้าน 24 ช.ม. ภายในสัปดาห์หน้า" เป็นข้อมูลเท็จ

JS100 - Post&Share

อัพเดต 31 มี.ค. 2563 เวลา 09.36 น. • เผยแพร่ 31 มี.ค. 2563 เวลา 09.34 น. • JS100:จส.100
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เตือนอย่าแชร์!
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เตือนอย่าแชร์! “รัฐบาลเตรียมประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้าน 24 ช.ม. ภายในสัปดาห์หน้า” เป็นข้อมูลเท็จ

    ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เปิดเผยตามที่ได้มีข่าวปรากฎในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง แชร์สนั่น! รัฐบาลเตรียมประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้าน 24 ช.ม. ภายในสัปดาห์หน้า ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
    จากกรณีการโพสต์ข้อความว่า “ด่วนมาก รัฐบาลอาจประกาศใช้เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้าน 24 ชม. ภายในสัปดาห์หน้า การผลิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ต้องหยุด” จากข้อความดังกล่าวกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากรัฐบาลเกี่ยวกับมาตการห้ามออกจากบ้าน 24 ชม. ตามที่เป็นข่าว
    และกรณีที่กล่าวว่า “การผลิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ต้องหยุด” นั้นไม่เป็นความจริง รัฐฯ ไม่เคยออกคำสั่งให้หยุดการผลิตสินค้าใด มีแต่การขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ว่าถ้างานไหนสามารถทำที่บ้านได้ ก็ขอความร่วมให้ทำงานที่บ้าน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการรับและแพร่เชื้อ
   สำหรับประเด็นที่บอกว่า “ตัวเลขผู้ป่วยยังสูงต่อเนื่อง หมอก็บอกว่าเอาไม่อยู่ถ้าปล่อยให้ใช้มาตรการสมัครใจอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้” ข้อความนี้มีส่วนจริง เพราะ ทางรัฐบาลไม่ได้มีมาตรการบังคับใดๆ แต่เป็นการขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อช่วยกันให้พ้นวิกฤต COVID-19 นี้ และขอย้ำว่าประชาชนไม่จำเป็นต้องกักตุนอาหารใดๆ ให้ซื้อสินค้าเหมือนปกติ

   ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากทางภาครัฐ เกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 สามารถคิดตามได้ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) เฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 หรือโทรสายด่วน 1111

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0