การพัฒนาแอพพลิเคชันขององค์กรอาจเป็นเรื่องดีกว่าที่คิด เพราะมีการศึกษาพบว่า องค์กรที่มีแอพพลิเคชันนั้น 88% ยอมรับว่าประสบความสำเร็จทางการเงิน และสามารถเห็นช่องทางการสร้างรายได้เพิ่มเติม
ผู้ทำการศึกษาคือบริษัทชื่อ Manifest ที่ทำการศึกษาจากองค์กรต่าง ๆ 301 แห่งในสหรัฐอเมริกา โดยพบว่า ความสำเร็จที่บริษัทเหล่านั้นได้รับมีหลากหลาย เช่น บางบริษัทใช้แอพพลิเคชันสร้างความรับรู้ในแบรนด์ บางบริษัทก็ใช้แอพพลิเคชันลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้ หรือบางบริษัทก็สามารถใช้แอพพลิเคชันเป็นช่องทางการขายได้ด้วย
แต่การมีแอพพลิเคชันอย่างเดียวไม่พอ เพราะต้องมีการตลาดร่วมด้วย แอพจึงจะติดตลาด ผลก็คือ บริษัท 35% ยอมรับว่า พวกเขาจ่ายเงิน 31% – 50% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปกับการ “ทำการตลาด” ให้กับแอพ และมีบริษัทถึง 21% ใช้งบการตลาดมากถึง 51% – 70% ของงบประมาณทั้งหมดด้วย โดยมีเพียงบริษัทราว 1 ใน 3 เท่านั้นที่บอกว่าใช้เงินไปเพียง 50,000 – 100,000 ดอลลาร์ในการพัฒนาและทำตลาดแอพพลิเคชันของตัวเอง
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำการตลาดเพื่อให้แอพเป็นที่รู้จักเป็นเรื่องจำเป็น ในโลกยุคที่กูเกิลเพลย์สโตร์มีแอพรวมกันกว่า 3 ล้านแอพ และบนแอพสโตร์มีแอพรวมกันกว่า 2 ล้านแอพ
ส่วนการอัพเดทแอพพลิเคชันนั้น มี 38% ของบริษัทยอมรับว่าพวกเขาอัพเดทแอพทุกเดือน และอีก 45% อัปเดทแอพทุก ๆ 2 – 6 เดือน โดยมองว่าการอัพเดทแอพนั้นมีขึ้นเพื่อรักษาผู้ใช้งานเดิมและดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ ๆ
จากกรณีนี้ ต้องบอกว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา บ้านเราก็มีการอัพเดทแอพพลิเคชันครั้งสำคัญเกิดขึ้นเช่นกัน นั่นก็คือแอพเคพลัสของธนาคารกสิกรไทยซึ่งมีผู้ใช้งานมากที่สุดในกลุ่มของธนาคารด้วยกันให้เป็นโฉมใหม่ แต่แน่นอนว่าเสียงที่ตามมานั้นมีหลากหลาย ทั้งเสียงชื่นชมในแง่บวกที่หน้าตาใหม่ไฉไลกว่าเดิม กับเสียงวิจารณ์ที่ฟีเจอร์ที่คุ้นเคยบางอย่างหายไป รวมถึงธีมต่าง ๆ ที่ธนาคารกสิกรไทยเคยเสนอให้กับผู้ใช้งานก็ไม่ได้ตามมาด้วยนั่นเอง
