ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของ Lego จากของเล่นแห่งความสุข เป็นการสร้างจินตนาการ และความโกรธ

หลายคนคงคุ้นชินกับตุ๊กตาสีเหลืองตัวเล็กๆ หรือ Minifigure ของ Lego ที่มาพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่รู้หรือไม่ว่า Minifigure ที่มากับใบหน้าอันโกรธเกรี้ยวกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก แล้วมันแสดงให้เห็นถึงอะไรล่ะ

เสริมสร้างเรื่องราวเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

Minifigure ของ Lego นั้นส่วนใหญ่จะมีขนาดสูง 1.5 นิ้ว พร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และตัวสีเหลือง แต่ปัจจุบันสิ่งนี้ก็มีหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวสีน้ำเงิน, ใบหน้าไว้หนวดไว้เครา, เพศชาย-หญิง จนไปถึงเอเลียน และไดโนเสาร์ แสดงให้เห็นการเติบโตของ Lego กับการเป็นของเล่นแห่งจินตนาการ

ซึ่งกว่าจะถึงจุดนี้ Minifigure ของ Lego นั้นถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 2517 โดยไม่มีหน้าตาใดๆ มีเพียงสีเหลืองเท่านั้น แต่จากความเป็นที่รู้จักของแบรนด์ ทำให้บริษัทตัดสินใจสร้างหน้าตาให้กับตุ๊กตาตัวเล็กตัวนี้ ผ่านการทำให้หน้าตาของสิ่งนี้มีความสุขด้วยรอยยิ้ม

จากนั้นไม่นาน Lego ก็มี Minifigure กว่า 10,000 แบบ ทั้งการออกแบบเอง และการได้สิทธิ์นำตัวละครจากภาพยนตร์ หรือการ์ตูนมาดัดแปลง ซึ่งปัจจุบันสามารแบ่งได้เป็น 5 อารมณ์ครา่วๆ คือโกรธ, รังเกียจ, กลัว, มีความสุข และตื่นต้น ซึ่งน่าแปลกใจว่าหน้าอารมณ์โกรธนั้นมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดเลยทีเดียว

Christoph Bartneck นักวิเคราะห์ และแฟนรุ่นใหญ่ของ Lego มองว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เนื่องจาก Lego พยายามใส่เรื่องราวต่างๆ เข้าไปในของเล่นของตัวเอง เพื่อเปลี่ยนผ่านจากตัวต่อธรรมดา เป็นการสร้างจินตนาการ โดยหนึ่งในนั้นคือเนื้อหาเกี่ยวกับความขัดแย้งต่างๆ จึงไม่แปลกที่ตัวอารมณ์โกรธจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

สรุป

Lego นั้นถือได้สิทธิ์ในการนำภาพยนตร์ และการ์ตูนมากกมายมาดัดแปลงเป็นของเล่น เช่น Harry Potter, Star Wars และ Batman ซึ่งเป็นปกติที่ตัวร้ายจะทำหน้าโกรธเกรี้ยว รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้ง ดังนั้นอารมณ์โกรธยิ่งมากเท่าไร อนาคตของ Lego ก็อาจสดใสขึ้นมากเท่านั้น

อ้างอิง // Quartz