โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศิลปินสาวน้อยป่วยหนักวาดภาพ ผบ.ตร.นำภารกิจโคราชยกฮีโร่ในดวงใจหวังมอบถึงมือ

Manager Online

เผยแพร่ 21 ก.พ. 2563 เวลา 08.32 น. • MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-ฮีโร่ในดวงใจ!สาวน้อยป่วยหนักโรคพุ่มพวง สุดชื่นชม ผบ.ตร.นำปฏิบัติการภารกิจเสี่ยงตายที่ห้างเทอร์มินอล 21 ด้วยตัวเอง งัดความสามารถด้านศิลปะเขียนภาพยกย่องวีรบุรุษตั้งใจมอบให้ถึงมือ พบฝีมือไม่ธรรมดาสอบเข้าเรียน ม.ดังได้ แต่จำเป็นต้องพักการเรียนเนื่องจากป่วยต้องฟอกไตสัปดาห์ละ3วัน ครอบครัวแบกภาระค่าใช้จ่ายสูงลิบ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าพบเด็กสาวคนหนึ่งที่ล้มป่วยหนักด้วยโรคไตและโรคหัวใจ ต้องรักษาตัวมานานกว่า5ปี รวมทั้งต้องหยุดพักการเรียนจากคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งที่เพิ่งสอบเข้าเรียนได้ในปีการศึกษา2560 และเริ่มเรียนไปได้เพียงไม่กี่วัน เนื่องจากอาการป่วย

ล่าสุดเด็กสาวคนนี้ ซึ่งมีความสามารถในเชิงศิลปะการวาดเขียนได้ทำการเขียนภาพพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่นำปฏิบัติการด้วยตัวเองกรณีเหตุการณ์ที่ห้างเทอร์มินอล21 จังหวัดนครราชสีมา ด้วยสีน้ำออกมาในแนวการ์ตูนสีสันสดใสสวยงาม พร้อมทั้งยังเขียนภาพร้อยตำรวจเอกชานันท์ ชัยจินดา ลูกชายของพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ที่ร่วมปฏิบัติการด้วย โดยการเขียนภาพดังกล่าวเนื่องจากรู้สึกชื่นชมพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ที่เป็นเสมือนฮีโร่ในสถานการณ์ครั้งนี้ และตั้งใจจะส่งมอบภาพดังกล่าวให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย

จากการตรวจสอบพบว่าเด็กสาวคนดังกล่าว คือ นางสาวปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช หรือ “น้องปริม” อายุ 20 ปี เปิดเผยว่า จากการติดตามข่าวกรณีเหตุการณ์ที่ห้างเทอร์มินอล21 จังหวัดนครราชสีมา รู้สึกชื่นชมและยกย่องพลตำรวจเอกจักรทิพย์ เป็นอย่างยิ่งที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุด แต่ลงพื้นที่นำปฏิบัติภารกิจที่มีความเสี่ยงสูงด้วยตัวเอง เพื่อปกป้องประชาชน จึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะเขียนภาพพลตำรวจเอกจักรทิพย์ โดยใช้ต้นแบบจากภาพข่าวถ่ายทอดออกมาในแนวการ์ตูนฮีโร่ ใช้เวลาในการเขียนภาพนี้จนเสร็จประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งค่อนข้างนานเพราะตัวเองป่วยหนักทำให้สภาพร่างกายอาจจะไม่ค่อยพร้อมเท่าใด แต่ก็พยายามเขียนจนเสร็จและตัวเองตั้งใจว่าจะมอบให้กับพลตำรวจเอกจักรทิพย์ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

สำหรับอาการป่วยของตัวเองนั้น “น้องปริม” บอกว่า เริ่มป่วยมานานกว่า 5 ปี ด้วยโรคเอสแอลอี หรือ โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ทำให้เกิดทั้งอาการไตวาย จนต้องเข้ารับการรักษาตัวด้วยการฟอกไตเป็นประจำสัปดาห์ละ 3 วัน รวมทั้งตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจและจำเป็นจะต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยเมื่อปี 2560 ตัวเองสามารถสอบเข้าเรียนคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ ตามความใฝ่ฝันของตัวเองที่ชื่นชอบศิลปะมาตั้งแต่เด็ก และเริ่มเรียนไปแล้วได้เพียง 2 วัน แต่เกิดล้มป่วยหนักด้วยอาการไตวาย ทำให้ต้องหยุดพักการเรียนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อรักษาชีวิต

ทั้งนี้จากการล้มป่วยของตัวเองทำให้ครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะต้องรักษาตัวต่อเนื่องมาตลอดหลายปี และบางครั้งที่อาการทรุดหนักเคยต้องเสียค่ารักษาครั้งละหลายแสนบาทด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งล่าสุดที่ผู้เป็นพ่อที่เคยเป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ต้องมาล้มป่วยไปอีกคน ทำให้ผู้เป็นแม่ที่เคยมีหน้าที่รักคือการดูแลตัวเอง ต้องรับภาระเพิ่มอีกทั้งการดูแลพ่อและหารายได้นำมาใช้จ่าย ทำให้เวลานี้ตัวเองตัดสินใจจะใช้ความรู้ความสามารถทางด้านศิลปะที่พอจะมีอยู่บ้างเขียนภาพขายผ่านทางเพจชื่อ “Mom&Me Happiness Inside” เนื่องจากหวังจะช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่ได้บ้าง

ขณะที่ นางอักขรา ตระกูลดาบทอง อาย 44 ปี แม่ของ “น้องปริม” บอกว่า มีลูก 2 คน โดย“น้องปริม”เป็นลูกสาวคนโต และมีน้องชายอีก 1 คน โดย “น้องปริม” มีความชื่นชอบและมีความสามารถศิลปะมาตั้งแต่เด็ก ชนะการประกวดและได้รับประกาศนียบัตรจำนวนมาก โดยเริ่มป่วยเมื่อประมาณ5ปีที่แล้ว และรักษาตัวเรื่อยมา แต่เมื่อปี2560 ยังสามารถสอบเข้าเรียนที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ผลงานศิลปะที่ส่งให้ทางคณะพิจารณาคัดเลือกเข้าเรียน อย่างไรก็ตามไปเรียนได้เพียง2วันเท่านั้นก็ล้มป่วยหนัก ทั้งไตวายและน้ำท่วมปอด จนต้องหยุดพักการเรียนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของ “น้องปริม” นั้น นางอักขรา บอกว่า แม้ว่าจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายตามสิทธิได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินอีกจำนวนหนึ่งที่สูงพอสมควร โดยที่ผ่านมาสามีของตัวเองจะเป็นเสาหลักในการหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวทั้งหมด ส่วนตัวเองทำหน้าที่ดูแลลูกๆ โดยเฉพาะ “น้องปริม” ที่ป่วย และต้องไปฟอกไตที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 3 วัน อย่างไรก็ตามล่าสุดสามีล้มป่วยหนักอีกคน ตัวเองจึงต้องทำหน้าที่เพิ่ม รวมทั้งการหารายได้ด้วย ซึ่งยอมรับว่าลำบากพอสมควรและบางครั้งจำเป็นต้องนำทรัพย์สินที่เก็บไว้ออกขาย โดย“น้องปริม” ก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระด้วยการเขียนภาพขาย ซึ่งตัวเองรู้สึกภูมิใจในตัวลูกมากและรับปากว่าจะดูแลลูกอย่างดีที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0