จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีหญิงไทยอายุ 30 ปี ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ เพื่อมารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยสภาพปอดติดเชื้อและใส่่ท่อช่วยหายใจ ทั้งระบุเป็นผู้ที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกับ คนที่กลับมาจากสถานที่รัฐจัดให้นั้น
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 15 ก.ค.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยเคสดังกล่าวมาจริง ส่วนผู้ป่วยรายนี้จะติอเชื้อโรคโควิด-19 หรือไม่นั้น ต้องรอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจะออกในวันที่ 16 ก.ค. นี้ ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ หากทราบผลการตรวจแล็บแล้วทางรพ.ศิริราช จะเปิดเผยให้ทราบอย่างเป็นทางการ
ต่อมาเวลา 20.00 น. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค ได้ส่งทีมระบาดวิทยาลงพื้นที่สอบสวนโรค พร้อมเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งส่งตรวจหาเชื้อโควิด19 ที่ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แล็บ) ทั้ง 3 แห่ง คือ รพ.จุฬาลงกรณ์ สถาบันบำราศนราดูร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยล่าสุดผลแล็บทั้ง 3 แห่งออกมาแล้วเป็นลบทั้งหมด แสดงว่าไม่มีการติดโควิด19 ส่วนสาเหตุของอาการป่วยนั้นอยู่ที่แพทย์และสถานพยาบาลที่ทำการรักษา
