โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ศาลปค.คุ้มครองชั่วคราว 'วอยซ์ทีวี' ไม่ต้องจอดำ

[invalid]

อัพเดต 16 ก.พ. 2562 เวลา 02.15 น. • เผยแพร่ 16 ก.พ. 2562 เวลา 02.04 น. • tnnthailand.com
ศาลปค.คุ้มครองชั่วคราว 'วอยซ์ทีวี' ไม่ต้องจอดำ
ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ 'วอยซ์ทีวี' กลับมาออกอากาศได้ตามปกติ หลังพิเคราะห์กม.ชี้ชัดให้ความคุ้มครองสิทธิ-เสรีภาพสื่อมวลชน

วันนี้(16 ก.พ. 62)ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

คดีนี้ บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ฟ้องว่า ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่คณะกรรมการ กสทช.มีมติในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี เป็นระยะเวลา 15 วัน ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป ตามหนังสือสำนักงาน กสทช.ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 สืบเนื่องจากคณะกรรมการ กสทช.ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบการออกอากาศรายการ Tonight Thailand เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 21.05 น. ในหัวข้อ สุดารัตน์ระอา ทหาร-ตร. ยังตามประกบลงพื้นที่ และได้ตรวจสอบพบการออกอากาศรายการ Wake Up News เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 07.05 น. ในหัวข้อ 10 เรื่องที่คนไทยกังวลใจเกี่ยวกับการเมืองไทย หัวข้อ รปช.ติงชัชชาติไม่รู้จริงเรื่องข้าว และหัวข้อ เฉลิมเชื่อพรรค 3 ฝ่าย ปชต.กวาด 300 ที่นั่ง วันที่ 22 มกราคม 2562 ในหัวข้อ ทักษิณสอนมวยรัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่นละออง วันที่ 28 มกราคม 2562 เวลาประมาณ 07.54 น. ในหัวข้อ เสรีพิศุทธ์ ปลุก ปชช. เอา ปชต. คืนมา และวันที่ 29 มกราคม 2562 ในหัวข้อ สุดารัตน์เปิด 5 แนวทางกระเป๋าตุง หัวข้อ ชัชชาติ ประกาศดัน 6 ยุทธศาสตร์สู่ไทยยั่งยืน และหัวข้อ กกต.กดสื่อจัดผังหาเสียงคาดมี 45 พรรคส่งสมัคร ส.ส.

โดยสำนักงาน กสทช.มีหนังสือลงวันที่ 24 มกราคม 2562 และหนังสือลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 เชิญบริษัทฯ มาชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณา จากนั้นสำนักงาน กสทช.ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและคำชี้แจงของบริษัทฯ เสนอต่อคณะกรรมการ กสทช.ในการประชุม ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งบริษัทฯ เห็นว่าการเสนอรายการดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์ข่าวสารต่อสาธารณชน ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของตนในที่สาธารณะตามปกติในระบอบประชาธิปไตย มิได้ก่อให้เกิดความสับสนแก่ประชาชน การที่คณะกรรมการ กสทช.มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี ของบริษัทฯ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งทางปกครองตามหนังสือ ที่ สทช 2412/5124 เรื่อง คำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 และเพิกถอนมติของคณะกรรมการ กสทช.ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 และเพิกถอนหนังสือบันทึกข้อตกลงระหว่างสำนักงาน กสทช.กับบริษัทฯ ฉบับลงวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2557 และบริษัทฯ มีคำร้องขอให้ศาลทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการ กสทช.ในการประชุมครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยให้ความคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน และสื่อมวลชนไว้อย่างชัดแจ้ง การที่คณะกรรมการ กสทช.จะใช้อำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตของบริษัทฯ ได้ก็ต่อเมื่อเป็นกรณีที่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า บริษัทฯ มีพฤติการณ์หรือการกระทำความผิดตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 และปรากฏด้วยว่า มีความเสียหายอย่างร้ายแรงเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการกระทำดังกล่าว หากขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง คณะกรรมการ กสทช.ย่อมไม่อาจออกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตของบริษัทฯ ได้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า สำนักงาน กสทช.มิได้เสนอว่าการออกรายการของบริษัทฯ ดังกล่าวเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงหรือไม่ อย่างไร และไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการ กสทช.ได้พิจารณาในประเด็นความเสียหายอย่างร้ายแรงก่อนมีมติออกคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของบริษัทฯ เช่นกัน

ในชั้นนี้จึงเห็นว่าคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองดังกล่าวน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากให้คำสั่งกำหนดโทษทางปกครองดังกล่าวมีผลต่อไป อาจเกิดความเสียหายทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีการสั่งสมฐานผู้ชมและความเชื่อมั่น ซึ่งไม่อาจเรียกคืนได้ จึงเป็นการยากแก่การเยียวยาภายหลัง อีกทั้งการทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ เนื่องจากคณะกรรมการ กสทช.และสำนักงาน กสทช.ยังคงมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลรวมทั้งบริษัทฯ ตามกฎหมาย กรณีจึงมีเหตุสมควรที่ศาลจะกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ให้แก่บริษัทฯ เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา

โดยสั่งให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของบริษัทฯ ตามหนังสือของสำนักงาน กสทช.ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 ตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ประกอบกับข้อ 72 วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2543 ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0