วันนี้(16 ตค.) ที่ศาลแพ่ง นายกัณต์พัศฐ์ สิงห์ทอง ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. นายแพทย์เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งอ่านโดยศาลแพ่ง
ในคดีที่นายประสงค์ กังวาฬวัฒนา เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท บางกอกประกันภัย จำกัด(มหาชน), นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, กระทรวงมหาดไทย, นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, กระทรวงกลาโหม, พลเอกประวิตร วงษสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายจตุพร พรหมพันธ์ุ, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายแพทย์เหวง โตจิราการ เป็นจำเลยที่ 1-10 จากกรณีที่เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมกลุ่มนปช. เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และต่อมามีการเผาอาคารหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยโจทก์เป็นผู้เสียหายจากกรณีเผาอาคารพาณิชย์ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิใกล้กับห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน
ซึ่งในวันนี้ศาลฎีกาได้พิพากษาให้จำเลย 8-10 คือนายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ,นายแพทย์เหวง โตจิราการ ร่วมกันชำระค่าอาคารพาณิชย์พร้อมทรัทย์สินที่เสียหาย จำนวน21,356,650 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2553 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับค่าขาดผลประโยชน์ 1,200,000 บาท เดือนละ 100,000 บาท นับแต่วันฟ้อง(18 พฤษภาคม 2554) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระค่าอาคารพาณิชย์พร้อมกับทรัทย์สินที่โจทก์เสียหายเสร็จสิ้นแก่โจทก์ แต่ทั้งนี้ให้ค่าเสียหายได้ไม่เกิน 24 เดือน และให้จำเลยที่8-10 ร่วมกันชำระค่าทนายความรวม 100,000 บาท
หลังฟังคำพิพากษานายกัณต์พัศฐ์ ทนายความของจำเลยทั้งสามได้กล่าวว่า คดีนี้แต่เดิมกลุ่มผู้ค้าที่เสียหายแจ้งว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาก่อความวุ่นวายเพื่อจะชิงทรัพย์สิน แต่เมื่อศาลฎีกาพิพากษามาเช่นนี้ ก็น้อมรับและจะกลับไปแจ้งต่อจำเลยทั้งสามให้รับทราบผลคำพิพากษาโดยเร็ว
สำหรับคดีนี้ในศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด ต่อมาศาลอุทธรณ์คำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1-6 ตามศาลชั้นต้น ส่วนจำเลยที่ 8-10 ให้ร่วมกันชำระเงินจำนวน 30,509,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2553
