โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"ศรแดง ” หนุนเกษตรกรเปลี่ยนผืนนา เป็นแปลงพืชน้ำน้อย สร้างรายได้ทั้งปี ที่บ้านโนนเขวา ขอนแก่น

เทคโนโลยีชาวบ้าน

เผยแพร่ 25 เม.ย. 2562 เวลา 10.16 น.
9

พื้นที่บ้านโนนเขวา ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เดิมทีกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่นี้เคยทำนาเป็นอาชีพหลัก แต่ปัญหาใหญ่ที่พบเป็นประจำทุกปีคือเรื่องน้ำที่มีไม่เพียงพอต่อการทำเกษตร ทำให้เสี่ยงต่อการขาดทุน ชาวบ้านเลยหันมาปลูกพืชน้ำน้อยแทน โดยรวมกลุ่มกันในนาม “กลุ่มปลูกผักปลอดภัยบ้านโนนเขวา” กลุ่มนี้เน้นปลูกผักกลุ่มผักใบ เพราะใช้น้ำน้อยกว่า เก็บเกี่ยวได้ไวกว่า ปลูกได้ทั้งปี มีตลาดรองรับ

นายคำปั่น โยแก้ว เกษตรกรตัวอย่างจากกลุ่มปลูกผักปลอดภัยบ้านโนนเขวา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้กล่าวว่า  ในพื้นที่บริเวณของกลุ่มบ้านโนนเขวา จะไม่มีชาวบ้านทำนาเลย เพราะว่าทำนาต้องใช้น้ำมาก ถ้าทำนาบ้านเดียว อีกสิบบ้านก็ไม่มีน้ำทำการเกษตรกัน ชาวบ้านเลยหันมาปลูกพืชน้ำน้อยเป็นทางเลือก

“ เมื่อปี 2561 ผมได้ทำนาบนเนื้อที่ 5 ไร่ ลงทุนไปประมาณ 12,000 บาท แต่เนื่องจากนาข้าวต้องใช้น้ำเยอะ และการดูแลอย่างทั่วถึง ประกอบกับภาวะอากาศที่ร้อนจัด ทำให้ผลผลิตที่ออกมาไม่ดี เมล็ดข้าวลีบ ไม่ได้น้ำหนัก ก็ขาดทุนไปครับ  ส่วนอีกแปลงนึง บนเนื้อที่ 4 ไร่ ผมปลูกพืชน้ำน้อยในกลุ่มผักใบมีทั้ง คะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี กวางตุ้งสลับกันไป ตลาดผักของผม 80% จะเป็นห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ และอีก 20% ขายในตลาดสด พืชน้ำน้อยสามารถสร้างรายได้ให้ผมได้เกือบเดือนละ 30,000 บาท และผมสามารถปลูกได้ทั้งปี สร้างรายได้ให้ผมทั้งปี ผิดกับการทำนาที่ปีหนึ่งผมได้เงินรอบเดียว แถมยังต้องเสี่ยงกับภาวะน้ำน้อยอีก” นายคำปั่นกล่าว

“อีสท์ เวสท์ ซีด” ผู้นำตลาดเมล็ดพันธุ์ผักเบอร์ 1 ในไทยโชว์ 7 พืชน้ำน้อยที่เหมาะสมในช่วงฤดูแล้ง ใช้น้ำน้อยกว่าการทำนา 2 เท่าสร้างทางเลือกใหม่ให้เกษตรกช่วงภัยแล้ง

คุณวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไปบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์คุณภาพตรา “ศรแดง” กล่าวว่า จากประกาศของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) เรื่องการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากอ่างเก็บน้ำโดยรวมทั้งประเทศจำนวน 412 แห่ง มีจำนวน 89 แห่ง ที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% ของความจุ และน้ำที่ไหลลงเขื่อนในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ในระดับต่ำมาก รวมทั้งเขื่อนขนาดกลางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือถึง 13 เขื่อน ที่ไม่มีน้ำเหลือแล้ว

สอดคล้องกับประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่คาดว่าจากปรากฏการณ์เอลนีโญ อุณหภูมิในปีนี้จะสูงกว่าปีที่ผ่านมา 1-2 องศาเซลเซียส ส่งผลให้สภาพอากาศร้อนแล้งยาวนานกว่าทุกปี สถานการณ์น้ำทั่วประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง จะมีน้ำสำหรับทำการเกษตรน้อยลงมาก สิ่งที่ทางเกษตรกรจะทำได้คือ การปรับตัว หรือการเลือกพืชน้ำน้อยมาปลูก ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกได้ง่าย ใช้น้ำน้อย เก็บเกี่ยวไว สร้างรายได้เร็ว พืชน้ำน้อยนี้จะใช้ปริมาณน้ำน้อยกว่าการทำนาถึง 2 เท่า แต่ให้รายได้มากกว่าการทำนาถึง 5 เท่า

อีสท์ เวสท์ ซีด เราเป็นบริษัทเมล็ดพันธุ์ที่เล็งเห็นถึงปัญหาใหญ่ของเกษตรกรนี้ จึงได้มีโครงการ “ ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ช่วงภัยแล้ง “ โครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2559 ที่เราเคยมีโครงการ “ศรแดงพืชน้ำน้อย” มาแล้ว ซึ่งโครงการนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมทั้งเกษตรกรผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง

 

“ เราเห็นว่าพืชน้ำน้อยจะมีประโยชน์กับเกษตรกรอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำที่ใช้น้อยกว่าการทำนาถึง 2 เท่า เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ไว ภายใน 2 เดือนก็สามารถสร้างรายได้แล้ว เทียบกับการทำนาที่ต้องใช้ระยะเวลา 3-4 เดือน และเกษตรกรไม่ต้องเสี่ยงกับการทำนาที่เราก็รู้อยู่แล้วว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้น้อยขนาดไหน ” คุณวิชัยกล่าว

โดยพืชน้ำน้อยที่เราแนะนำทั้งหมด 7 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

  • ข้าวโพด  เช่น ข้าวโพดหวานลูกผสม พันธุ์จัมโบ้สวีท ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 70 วัน  สร้างรายได้ 16,000 บาทต่อไร่
  • แฟง  เช่น แฟงไส้ตันลูกผสม พันธุ์ปิ่นแก้ว ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 60-65 วัน สร้างรายได้ 40,000 บาทต่อไร่
  • แตงโม เช่น แตงโมลูกผสม พันธุ์จอมขวัญ ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 55-60 วัน สร้างรายได้ 35,000 บาทต่อไร่
  • ฟักทอง เช่น ฟักทองลูกผสม พันธุ์ข้าวตอก 573 ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 75 วัน สร้างรายได้ 24,000 บาทต่อไร่
  • แตงกวา แตงร้าน เช่น แตงกวาลูกผสม พันธุ์ธันเดอร์กรีน ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 30-32 วัน สร้างรายได้ 39,000 บาทต่อไร่
  • ถั่วฝักยาว เช่น ถั่วฝักยาว พันธุ์ลำน้ำพอง ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 55-60 วัน สร้างรายได้  60,000 ต่อไร่
  • กลุ่มผักใบ เช่น ผักบุ้ง พันธุ์ยอดไผ่9 ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยว 20-21 วัน สร้างรายได้ 43,200 บาทต่อไร่

สำหรับโครงการ “ ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ช่วงภัยแล้ง “  ในปีนี้ทางศรแดงได้จัดเตรียมทีมงานถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer) ซึ่งเป็นทีมงานที่พร้อมจะมอบองค์ความรู้ด้านการปลูกพืชน้ำน้อย ตั้งแต่การหยอดเมล็ด การใส่ปุ๋ย การดูแลรักษา จนถึงการเก็บเกี่ยวที่ให้เกษตรกรสามารถไปปฏิบัติได้จริง และในปัจจุบัน ทางทีมถ่ายทอดความรู้ได้นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้การสื่อสาร และให้ความรู้กับกลุ่มเกษตรกรได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

หากสนใจโครงการ  “ ศรแดงพืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ช่วงภัยแล้ง ”  ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ช่องทางการสื่อสารต่างของบริษัทเช่น Facebook เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง   , Line (@sorndaengseed) และ Website https://growhow.eastwestseed.com/th/th

 

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0