โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

"ศรราม"ไม่ทน ไลฟ์สดโต้แทนเมียไม่ได้โกงค่าแมสก์!

เดลินิวส์

อัพเดต 30 มี.ค. 2563 เวลา 09.54 น. • เผยแพร่ 30 มี.ค. 2563 เวลา 09.50 น. • Dailynews
หนุ่ม-ศรราม ออกโรงไลฟ์สดแจงปม ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ถูกโยงโกงค่าหน้ากากอนามัย พร้อมย้ำบ้านเราไม่ทำผิดกฎหมายขอให้มารับคืนได้แล้ว

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ทันที หลังจากกรณีที่มีเพจดังในโลกออนไลน์ออกมาเผยข่าวลือว่ามีเมียพระเอกดัง หลอกขายหน้ากากอนามัย มีหมอและพยาบาลเป็นเหยื่อและเสียหายเพียบ ซึ่งพอมีข่าวออกไปก็มีคนโยงว่าข่าวนี้อาจจะเป็นข่าวของสาว ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ภรรยาของพระเอกรุ่นใหญ่ หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ทำให้มีชาวเน็ตถามหาความจริงเรื่องนี้อย่างมากมาย

ล่าสุดหนุ่ม-ศรราม ได้ตัดสินใจไลฟ์สดผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวและเฟซบุ๊ก โดยหนุ่มเปิดเผยว่า “อยู่ๆก็มีจดหมายเข้ามา จดหมายมาจากสำนักงานทนายความกล้าหาญ เป็นทนายความผู้รับมอบอำนาจ เป็นจดหมายจากเขาลงวันที่ 19 มี.ค.เรื่องบอกเลิกสัญญาซื้อขายและขอให้คืนเงินค่าสินค้า เรียนคุณติ๊ก-กนิษฐรินทร์ เทพพิทักษ์ เขาบอกว่าตามวันที่ 5 มี.ค. คุณคนหนึ่งได้ตกลงสั่งซื้อสินค้าหน้ากากอนามัยสองแสนชิ้น คิดเป็นมูลหนึ่งล้านเก้าแสนบาท มีการตกลงสัญญา แต่สัญญาผมไม่ทราบว่ามีอะไรเกี่ยวข้อง ผมมาเล่าให้ฟังว่าว่าจะส่งมอบสินค้าให้คุณคนนี้ ภายในวันที่ 13 มี.ค. ซึ่งทางคุณคนนี้เขาจ่ายเงินค่าสินค้าไปให้ท่านแล้วบางส่วน คือติ๊กแล้วบางส่วน หลายครั้งหลายคราเป็นเงินเก้าแสนบาท ปัจจุบันล่วงเวลามานาน ซึ่งท่านไม่สามารถส่งของให้เขา ตามข้อความที่เขาส่งมานะ แต่ก็ไม่ได้เบิกเฉย การกระทำดังกล่าวถือเป็นการผิดนัด”

“ผมเชื้อว่าไวรัสโควิดมันเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งโลก ผมเชื่อว่าตอนต้นเดือนเมื่อโรคกำลังเข้ามา ผมว่าน่าจะมีคนต้องการหน้ากากอนามัย เจลและแอลกอฮอล์คิดว่าน่าจะทำมาหากินได้ แน่นอนมันคือสินค้าที่ทำให้เราไม่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ ต่อมารัฐบาลประกาศว่าหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม และภาครัฐดูแล เรื่องฉ้อโกงและฉ้อฉล นั่นหมายความว่าผมและภรรยามีสินค้าเยอะๆในบ้าน และปรากฏว่ามีคนไปร้องเรียนเยอะๆเลยนี่คือสิ่งผิดกฎหมาย แต่เราไม่ทำผิดกฎหมาย หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าหรือเป็นอุปกรณ์ควบคุม ผมรับแทนภรรยาก็ได้ ภรรยากะว่าจะขายหน้ากากอนามัยเพราะเราจะทำมาหากิน แต่เราไม่ทำ เราเลยยอมเสียเงินที่สั่งออเดอร์ไปล่วงหน้า นี่คือความจริง”

หนุ่ม กล่าวต่อว่า “คราวนี้ภรรยาก็พยายามจะติดคุณคนนี้ไป เราโทรหาและเขาไม่รับโทรศัพท์ จากนั้นเขาก็ให้เราโทรไปที่ทางทนาย ซึ่งไม่เกี่ยวกับสำนักงานทนายความอื่นเลย จนกระทั่งวันนี้เราเพิ่งจะได้รับจดหมายและข้อความ เราพร้อมอยู่แล้วตั้งแต่ 13 มี.ค.จำนวนเก้าแสนบาท ตรงกับวันนี้ คุณคนนี้ก็ไปแจ้งความที่ สน.หัวหมาก เรียบร้อยแล้ว ภรรยาผมก็ประสานไปที่ สน.หัวหมาก เพื่อให้ท่านประสานกับคุณคนนี้หน่อยว่าในวันนี้หรือวันไหนที่สะดวกมาเอาเช็คคืนที ผมไม่พร้อมทำธุรกิจผิดกฎหมายกับคุณ ถ้าคุณอยากได้หน้ากาก ผมไม่มีทางเอามาจากต่างประเทศแล้วมาขายแพงๆแน่นอน”

“ถ้าทนายความหรือคุณคนนี้เขาดูอยู่ ก็ให้มารับเงินคืนทีเก้าแสนบาท จะทางไหนก็ได้ คุณติดต่อมาเพราะทางครอบครัวไม่สนับสนุนสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ก็ติดต่อไปทางที่ สน.หัวหมาก ก็ได้ จะได้มารับเงินคืน เพราะในจดหมายบอกให้บอกเลิกสัญญาหรือคืนเงิน เราไม่ได้ฉ้อโกง ไม่มีเจตนาแบบนั้น และบ้านผมอยู่ลาดพร้าว ถ้าใครอยากมาตรวจสินค้ากักตุนมาได้ ทุกวันนี้ผมขายซั่มหน้าใสออนไลน์ ก็ไม่มีอะไรเลย แต่ละวันทำตามประชาชนทุกคนอยู่บ้าน เอาข่าวสารดีๆมากบอกแฟนๆตลอด เราฟังข่าวจากสำนักข่าวต่างๆและมาให้กำลังใจแฟนๆทุกคนที่ฟังอยู่ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย งานก็มีผลกระทบหมด"

"เจตนามาไลฟ์เพราะอยากให้เข้าใจว่าผมสับสนมาก กับสำนักทนายความนี้และผมหาตัวคุณเขาไม่เจอจริงๆ ยังไงช่วยติดต่อมาด้วย จะได้คืนเงินให้ ส่วนเรื่องที่เข้ามากระทบกระเทือนผม เดี๋ยวเรามาลองอัพเดทกันดูในแต่ละวัน ทางเฟซบุ๊กและไอจีแล้ว วันนี้มีเรื่องชี้แจงเพียงเท่านี้ยังไงฝากติดต่อมาด้วย ขอบคุณทุกกำลังใจ และขอเป็นกำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ด้วย รวมถึงผู้ป่วยด้วยขอให้หายไวๆ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ครอบครัวเราด้วย และฝากแชร์ให้พี่เขามารับเงินคืนด้วย และทุกอย่างคงให้ สน.หัวมากดำเนิน และถ้าต้องชี้แจงอะไรผมจะให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายไปดำเนินการ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม @sornram_theappitak , @mama_veeji

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0