โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศพโดนหั่น คาดเป็นหญิงสัญชาติจีน เบื้องต้น ผลตรวจไม่พบอาหารในกระเพาะ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

เผยแพร่ 23 มิ.ย. 2561 เวลา 09.20 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

คาด ศพโดนหั่นเป็นหญิงสัญชาติจีน เหตุ เสื้อผ้า ชุดชั้นใน ที่พบระบุทำจากประเทศจีน ขณะที่เบื้องต้นตรวจไม่พบอาหารในกระเพาะ ทั้งนี้ จนท.คาด คนร้ายมีความชำนาญการหั่นศพ 

กรณีเจ้าหน้าที่พบศพหญิงผมแดง อายุประมาณ 30-35 ปี ถูกหั่นศพเป็น 14 ชิ้น แต่พบในจุดเกิดเหตุ 13 ชิ้น อยู่ในถุงปุ๋ย โดยส่วนศีรษะถูกแยกอยู่ในกระเป๋าเป้สีดำ ห่ออยู่ในถุงดำและผ้าสีแดงอีกชั้นแยกต่างหาก โดยศพถูกทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน จนมีคนสงสัยจึงเปิดดูถึงกับผงะ เรียกตำรวจมาตรวจสอบทันที ที่เกิดเหตุอยู่ในป่ารกชัฏทางเปลี่ยว ซอยสามวา แขวงบางขัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 มิ.ย. ท้องที่ สน.มีนบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. ที่ สน.มีนบุรี ทางพล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. เดินทางมาประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พร้อมชุดสืบสวนทั้งหมดเพื่อหาแนวทางการสืบสวนในคดีดังกล่าว ใช้เวลาการประชุม 2 ชั่วโมง

โดยพล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวว่า ตนได้แบ่งงานทางชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาว่า ผู้เสียชีวิตเป็นใคร เบื้องต้นพบว่า ผู้ตายเป็นผู้หญิงผิวขาว น่าจะเป็นคนเอเชีย ทางผู้ตายมีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะ จำนวน 5 บาดแผล จนเสียชีวิต ก่อนใช้มีดหั่นศพเป็นท่อนๆ อย่างชำนาญ เพื่อนำมาทิ้งอำพรางไว้ ซึ่งแพทย์ระบุว่าการหั่นชำแหละศพนั้น คนร้ายค่อนข้างมีประสบการณ์ในการหั่นชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ในถุงปุ๋ยนั้น นอกจากชิ้นส่วนศพแล้ว ก็ยังมีทรัพย์สิน เสื้อผ้าผู้ตาย ซึ่งจะสืบหาแหล่งที่ผลิตให้ชัดเจน ส่วนเสื้อยืดที่เขียนข้อความว่า “ที่นี่..ชะอำ” นั้น น่าจะเป็นของที่ระลึกซึ่งนักท่องเที่ยวชอบซื้อใส่กัน ซึ่งจะได้ตรวจสอบว่า เสื้อดังกล่าวซื้อมาจากร้านใด นอกจากนี้ ทางตำรวจจะประสานกับทางสถานทูตต่างๆ เพื่อตรวจสอบว่า ได้รับแจ้งบุคคลในชาติตัวเองหายตัวไปหรือไม่ และไล่กล้องวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุ เพื่อหารถต้องสงสัยที่นำชิ้นส่วนศพมาโยนทิ้งไว้

รอง ผบช.น. กล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่จะรอผลตรวจจากทางนิติเวช โดยเฉพาะในส่วนของกระเพาะอาหารว่า มีการกินอาหารใดไป เพราะทำให้ทราบช่วงเวลาการเสียชีวิตได้อย่างแน่นอน และในวันที่ 24 มิ.ย. ในเวลา 16.00 น. ที่สน.มีนบุรี จะมีการประชุมสรุปความคืบหน้าคดีอีกครั้งต่อไป โดยมี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. มาร่วมรับฟังความคืบหน้าในคดีดังกล่าวด้วย

หลังจากนั้น พล.ต.ต.สมพงษ์ เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุ โดยได้สอบปากคำ นายรัฐศาสตร์ คมขำ อายุ 39 ปี ทางอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทรให้การว่า ช่วงวันที่ 19 มิ.ย. ตนปั่นจักรยานออกกำลังกายในเส้นทางจุดเกิดเหตุ สังเกตเห็นกระเป๋าเป้วางไว้ ตนเริ่มสงสัย แต่ยังไม่ได้หยุดปั่นดู จนก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ตนเห็นกระเป๋าวางอยู่ที่เดิม มีลักษณะบวมพอง จึงไปบอกเพื่อนมาช่วยกันดู ได้ใช้กรรไกรตัดเห็นถุงดำ เมื่อคลี่มาเห็นศีรษะเป็นเพศหญิงพร้อมผมสีแดง จึงหยุดทันทีแล้วแจ้งตำรวจ โดยระหว่างนั้น ก็พบถุงปุ๋ยอยู่ลึกในป่า มีลักษณะเหมือนของภายในบวมออกมา

ขณะเดียวกันในจุดเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ พฐ.ได้ลงตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำสุนัขตำรวจจำนวน 2 ตัวลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบด้วย มุ้งเน้นตรวจสอบชิ้นส่วนท่อนแขนขวา ที่ยังหาไม่พบในจุดเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ โดยใช้สุนัขตำรวจดมเป็นทางยาวโดยรอบ ซอยสามวา เนื่องจากจุดเกิดเหตุ มีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว อาจส่งผลให้สุนัขตำรวจสับสนจากการดมกลิ่น จึงต้องให้สุนัขดมไปโดยรอบ ก่อนจะให้กลับไปยังจุดเกิดเหตุอีกรอบ และให้ทางอาสาสมัครเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาท่อนแขนดังกล่าว ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบท่อนแขนขวาที่หายไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ตายน่าจะเป็นคนสัญชาติจีน เนื่องจากเสื้อผ้า โดยเฉพาะชุดชั้นในที่พบในจุดเกิดเหตุนั้น มีข้อความระบุว่า ทำจากประเทศจีน สำหรับการตรวจกระเพาะอาหารเบื้องต้นไม่พบว่า มีอาหารอยู่ในกระเพาะเลย โดยทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่า กลิ่นเหม็นจากกระเป๋าดังกล่าวโชยส่งกลิ่นมาตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่พลเมืองดีสงสัย และตรวจดูกระเป๋าในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา สำหรับท่อนแขนขวาที่หายไปนั้น มีความเป็นไปได้ว่า ท่อนแขนดังกล่าวอาจมีตำหนิรอยสักรูปพรรณสัณฐานที่สามารถระบุตัวผู้เสียชีวิตได้ จึงไม่นำมาทิ้งร่วมกับชิ้นส่วนอวัยวะ แต่แยกไปทิ้งอีกที่ ทั้งนี้ชิ้นส่วนที่พบอยู่ในถุงปุ๋ยห่ออย่างดี จึงตัดประเด็นว่าจะมีสัตว์มาคุ้ยเขี่ยกินชิ้นส่วนศพไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0