โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศบค. ให้กระทรวงศึกษาฯ พิจารณาโรงเรียนเปิดเทอมเด็กโตเร็วขึ้นได้ตามความพร้อม

SpringNews

อัพเดต 29 พ.ค. 2563 เวลา 07.30 น. • เผยแพร่ 29 พ.ค. 2563 เวลา 07.30 น.
ศบค. ให้กระทรวงศึกษาฯ พิจารณาโรงเรียนเปิดเทอมเด็กโตเร็วขึ้นได้ตามความพร้อม

วันนี้ (29 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ให้สัมภาษณ์กรณีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้กล่าวถึงการขยายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ในภาพรวมของศบค.เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเอกภาพ และอยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจในเรื่องเจตนา เพราะหากสถานการณ์ดีขึ้น ในระยะที่ 4 จะมีการพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. มีการพิจารณาวาระที่มีการเสนอให้มีการเปิดเรียนซึ่งเดิมเป็นวันที่ 1 ก.ค 2563 โดยยังให้คงวันดังกล่าวไว้เช่นเดิม แต่มีการหารือในประเด็นที่จะเลื่อนให้เร็วขึ้นได้หรือไม่ ในบางส่วนบางโรงเรียน เช่น โรงเรียนห่างไกลพื้นที่ต่างจังหวัด และอัตราการเกิดโรคไม่ได้มาก และเป็นกเรียนที่ห้องเรียนมีจำนวนคนไม่มาก สมควรที่จะเปิดได้ก่อนหรือไม่ เช่นเดียวกับโรงเรียนเอกชน ที่มีห้องเรียนน้อย จำนวนนักเรียนต่อห้องไม่มากทั้งในเมืองและต่างจังหวัด ซึ่งในข้อสรุป คือยังยึดวันเปิดเทอมเป็นวันที่ 1 ก.ค. 2563 เช่นเดิม แต่ถ้ามีความพร้อมเกิดขึ้นก่อนอาจจะสามารถขยับเร็วขึ้นได้

 

สำหรับหลักการกว้างๆที่ผอ.ศบค.ให้ไว้ อาทิ

1.ขนาดโรงเรียน สถานที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ห่างไกล ไม่ได้มีอัตราการติดเชื้อสูง อยู่ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อให้นักเรียนได้รับการเรียน

2. หากเป็นพื้นที่ในเมืองต้องเดินทางมีการจรจาจรจะสลับเหลื่อมเวเลาเรียน

3 วันต่อสัปดาห์ ถ้าสามารถทำได้ จะทำให้ไม่แออัดกันมากขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียนด้วย โดยเน้นเฉพาะกลุ่มเด็กโต เนื่องจากเด็กเล็กหากมาเรียน อาจจะมีความเสี่ยงเพราะอยู่ใกล้ชิดกัน นอนกลางวัน และเล่นกัน จึงยังไม่ได้หารือร่วมกัน

 

ส่วนโรงเรียนนานาชาติมีร้องมาว่า การเรียนที่จะต้องมีการเปิดเทอมขึ้นเร็ว เพราะให้ทันของกระแสโลก และการเรียนที่เป็นมาตรฐานของต่างประเทศนั้น ยังไม่มีข้อตกลง ว่าจะเป็นข้อสรุปอย่างไร โดยทั้งหมดได้มอบให้นายณัฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ไปศึกษารายละเอียดและหาข้อสรุปของแต่ละเรื่องมานำเสนออีกครั้งที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่อีกครั้ง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0