จากกรณี ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ในวันเสาร์ ที่ 11 ก.ค.63 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 14 ราย โดยทั้งหมดกลับมาจากต่างประเทศ
โดย 1 ใน 14 รายนั้น เป็นเด็กหญิงวัย 9 ปี เดินทางมาจากภูมิภาคแอฟริกา เมื่อวันที่ 7 ก.ค.63 พร้อมกับครอบครัวคณะทูต
13 ก.ค.63 ศบค.ได้ชี้แจงไทม์ไลน์ของ เด็กหญิงรายนี้เพิ่มเติมว่า ในวันที่ 7 ก.ค.63 เด็กหญิงและครอบครัวรวม 5 คน ได้ไปตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง ที่ ประเทศซูดาน แต่ผลตรวจทุกคนไม่พบเชื้อ
ออกเดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 10 ก.ค.63 เวลา 05.40 น. เข้าด่านคัดกรอง ไม่มีอาการ เก็บตัวอย่างส่งตรวจ สรุป พบเด็กหญิง ติดเชื้อ
ครอบครัวจึงนำส่ง เด็กหญิง เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตรวจซ้ำก็ยืนยันพบเชื้อ
ส่วนครอบครัวอีก 4 คนเข้ากักกันในที่พำนักที่คอนโดปห่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ
วันที่ 11 ก.ค.63 แพทย์ตรวจร่างกาย เด็กหญิง 9 ขวบ พบมีอาการปอดอักเสบ จึงส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลรัฐในกรุงเทพฯ
การเดินทางเข้าประเทศไทย ของ ผู้ป่วยรายนี้นั้น อยู่ในกลุ่มวงเล็บ 3 คือบุคคลในคณะทูต คณะกงศุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศซึ่งมาปฏิบัติงานในประเทศไทย
โดย นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ชี้แจงว่า เป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อกลุ่มคณะทูตเข้ามาในประเทศ ก็จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน เมื่อเดินทางมา ก็ให้อยู่ในสถานทูตของท่าน ถือเป็นการกักพื้นที่ และขอให้อยู่ตรงนั้น 14 วัน
ซึ่งอยู่ในมาตรการเมื่อเดินทางมาถึงข้อ 4 ให้เข้ารับการกักกันไปที่พำนักของบุคคลดังกล่าวภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงานต้นสังกัด เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน
ซึ่งเราเห็นความไม่ตรงกันหลายๆพื้นที่ แต่ละสถานทูต ก็มีทั้งที่เป็นสถานที่ของตนเอง และอย่างเคสนี้เป็นครอบครัวของเขา แต่เขาก็มาพักที่คอนโด นี่คือสิ่งที่เราต้องมีการกำหนดมาตรการอย่างละเอียดให้ครอบคลุมมากกว่านี้ เพราะเป็นความเสี่ยงเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ไม่สามารถโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นสิ่งที่เราต้องรียนรู้ไปด้วยกัน
โดยจะมีวิธีจัดการคือ
ข้อที่ 1 ทีมสอบสวนโรค ของกรมควบคุมโรค จะต้องเข้าไปสอบสวนในพื้นที่คอนโดแห่งนี้
นำเรียนไว้เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้เข้าใจ และให้ความร่วมมือ
นพ.ทวีศิลป์ ยังบอกอีกว่า ไม่ต้องตกใจ เพราะอาการของผู้ติดเชื้อ ยังไม่มาก เด็กหญิง 9 ขวบ มีอาการน้อยมาก
ข้อที่ 2 ทาง ศบค. ได้พูดคุยกันในประเด็นที่เป็นข้อต่อระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งในกระทรวงการต่างประเทศ ในส่วนของระบบข้อมูล และการตรวจสอบ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องรับทราบ และขอความร่วมมือ ในฐานะที่เขาเป็นทูตานุทูต จากทางประเทศต่างๆ
ยืนยันไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนต่างชาติ ทุกศาสนา ทุกสถานะ เราต้องดูแลเป็นอย่างดี ให้เกียรติซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี
