ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตนักกอล์ฟเบอร์ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ในฐานะกัปตันทีม นำทัพก้านเหล็กสหรัฐแซงชนะทีมนานาชาติ ของเออร์นี่ เอลส์ โปรดังชาวแอฟริกาใต้ด้วยสกอร์รวม 16 ต่อ 14 หลังจบการแข่งขันวันสุดท้าย ศึกกอล์ฟแมตช์เพลย์ “เพรสซิเดนตส์ คัพ” 2019 ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ดับฝันทีมนานาชาติซึ่งหวังคว้าโทรฟี่ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี
สหรัฐเป็นฝ่ายตามหลังมาตลอดในทุกช่วงของการแข่งขัน โดยหลังจบรอบ 3 สหรัฐตกเป็นรอง 8 ต่อ 10 คะแนน กระทั่งเข้าสู่การแข่งขันวันสุดท้ายในรูปแบบการดวลตัวต่อตัว 12 คู่ ซึ่งวู้ดส์ลงแข่งขันเป็นคู่แรก ปราบอับราฮัม แอนเซอร์ (เม็กซิโก) 3 และ 2 (นำ 3 อัพ ขณะเหลือ 2 หลุม) ก่อนที่สุดท้ายเป็นสหรัฐเอาชนะได้ 6 คู่, เสมอ 4 และแพ้เพียง 2 แมตช์ รวมสกอร์ทีมมะกันคว้าแชมป์สมัยที่ 11 ไปด้วยสกอร์ 16 ต่อ 14 (รวมจัดแข่งทั้งหมด 13 ครั้ง ทีมนานาชาติเคยเอาชนะทีมาสหรัฐฯ เพียง 1 ครั้ง เมื่อปี 1998 และครองแชมป์ร่วมกันหลังเสมออีก 1 ครั้ง) คลิกดูผลการแข่งขันทั้งหมด
“ผมเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมทีมอีกทั้ง 11 คน โดยบอกก่อนลงแข่งขันรอบสุดท้ายว่าลุยให้เต็มที่ ซึ่งพวกเราต่างเก็บคะแนนมาได้ตามที่ต้องการ ประทับใจในผลงานที่ทุกคนมากๆ” วู้ดส์ ระบุ
โดยวู้ดส์ ซึ่งลงแข่งขันศึกเพรสซิเดนตส์คัพเป็นสมัยที่ 9 เก็บชัยชนะรวด 3 แมตช์ในทัวร์นาเมนต์ปีนี้ ทำให้วู้ดส์สร้างสถิติเป็นนักกกอล์ฟที่มีผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ศึกเพรสซิเดนตส์คัพ ด้วยสถิติชนะ 27, แพ้ 15 และเสมอ 1 ทำลายสถิติเดิมของฟิล มิคเคลสัน ที่ชนะ 26 แพ้ 16 เสมอ 13
