วันที่ 21 พฤศจิกายน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนด้านคอร์รัปชั่น (คปต.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “วีระสมความคิด “ ภายหลังนำเจ้าหน้าที่สาวธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)รายหนึ่ง ยื่นเรื่องร้องเรียนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กรณีตรวจพบความผิดปกติเกี่ยวกับการจ่ายเงิน ในโครงการรับจำนำข้าวและมันสัมปะหลัง และต่อมาถูกไล่ออก โดยระบุว่า “ผู้บริหารของ ธ.ก.ส. พยายามปกปิดอะไร จึงไม่ตรวจสอบหาความจริงเกี่ยวกับกรณีนี้อย่าง ตรงไปตรงมา หลังจากพนักงานของ ธ.ก.ส. เสนอเรื่องให้ตรวจสอบถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น”
“ที่เลวร้ายคือพยายามปิดปากเจ้าหน้าที่ของตนเองที่กล้าหาความจริงมาเปิดเผย โดยการใส่ความ กล่าวหาว่าเธอเป็นคนเสียสติ และกล่าวหาว่าเธอทำให้องค์กรได้รับความเสียหาย ทั้งที่ความจริงคนที่ทำให้ ธกส. เสียหายตัวจริง คือคนที่ทุจริตไม่ใช่หรือ พนักงานที่กล้าออกมาพูดความจริง ควรได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ช่วยปกป้องรักษาผลประโยชน์ให้กับองค์กรและส่วนรวม คนเช่นนี้ควรได้รับความดีความชอบ ไม่ใช่ถูกทำร้ายทำลายจากผู้บังคับบัญชา”
เนื้อในเฟซบุ๊กยังระบุว่า “และหากเธอเป็นคนเสียสติจริง ธ.ก.ส. รับเข้ามาเป็นพนักงานได้อย่างไร และยอมให้คนเสียสติทำงานให้ ธกส. มาเกือบสิบปีได้อย่างไร ความจริงคือเธอไม่ได้เสียสติ แต่เธอไปตรวจพบความผิดปกติเกี่ยวกับการจ่ายเงิน ในโครงการรับจำนำข้าวและมันสำปะหลัง ทำให้กลุ่มที่ร่วมกันทุจริตกลัวจะถูกเปิดโปงและถูกลงโทษ จึงต้องช่วยกันให้ร้ายและทำลายเธอให้หมดความน่าเชื่อถือ”
“กรณีของน้อง ชญาดา คนนี้ก็ไม่ต่างกับกรณีของน้องแบม นางสาวปณิดา ยศปัญญา นักศึกษาที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการโกงเงินคนจนของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น แทบไม่ต่างกันเลย แต่กรณีของน้องชญาดา รัฐบาลไม่ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกรณีของการโกงเงินคนจน ทำให้ขณะนี้เธอถูก ธกส. เลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ถือเป็นความเลวร้ายที่เกิดขึ้นใน ธ.ก.ส.”
“ขอเตือนไอ้พวกระยำทั้งหลาย หยุดรังแกผู้หญิงคนนี้หากพวกคุณไม่ได้ทำความผิด ก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ และหากรัฐบาลมีความจริงใจในการปราบโกง ต้องเข้ามาตรวจสอบกรณีนี้อย่างตรงไปตรงมา”
