"วีระ" ลุยแจ้งจับ "ปารีณา" รุกป่า

ส.ส.เอ๋ยังไม่ตอบรับ นำชี้แนวเขตที่สปก.

ทีมป่าไม้-ส.ป.ก. นัด 24 พ.ย. ลงพื้นที่สแกนที่ดิน 1,700 ไร่ ของ “ปารีณา” ยังเงียบกริบไม่ตอบรับร่วมชี้แนวเขต เน้นใช้แผนที่ “วันแม็ป” 1:4,000 ตามนโยบายนายกฯ ด้าน “วีระ สมความคิด” เดินเครื่องบึ่งเข้า สภ.จอมบึง แจ้งความจับ “ปารีณา” แถมแวะชวน จนท.ป่าไม้พื้นที่ร่วมเป็นโจทก์แต่ไร้เงาผู้คน ขู่ระวังโดนด้วยฐานปล่อยให้คนรุกป่า “เอี้ยง” จี้กรมป่าไม้ดำเนินคดีรายกระทง คำนวณให้เสร็จต้องโทษคุก 356-2,670 ปี เตือนป้องคนผิดพังทั้งรัฐบาล ขณะที่ “โชติพิพัฒน์” ส.ส.อนาคตใหม่ ชักผวา ออกโรงเคลียร์มีที่ ภบท.5 แปะไว้ที่ ป.ป.ช. 20 ไร่ ขายต่อให้เกษตรกรไปแล้ว

ความคืบหน้าการตรวจสอบที่ดิน 1,700 ไร่ หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คณะทำงานของกรมป่าไม้ประสานกับคณะทำงานสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะลงพื้นที่เพื่อเข้าตรวจสอบที่ดินฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณาในวันที่ 24 พ.ย.นี้ โดย ส.ป.ก.ทำหนังสือแจ้ง น.ส.ปารีณานำชี้แนวเขตแต่ยังไม่ได้รับคำตอบว่าจะมาหรือไม่ ซึ่งรัฐไม่มีอำนาจบังคับ แต่การรังวัดครั้งนี้จะทำอย่างละเอียดเพื่อให้ทราบว่าที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขต ส.ป.ก.จำนวนเท่าใดและอยู่ในเขตป่าไม้หรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจะกำหนดแนวทางการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สั่งการให้ประสานกับทุกหน่วยงานที่ดูแลที่ดินของรัฐทุกประเภทเพื่อเร่งปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4,000 (One Map) ตามนโยบายนายกรัฐตรีมอบหมายให้จัดทำ One Map แก้ปัญหาบุกรุกที่ดินรัฐให้แล้วเสร็จเพื่อที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จะได้นำที่ดินของรัฐที่ถูกครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายจัดสรรสิทธิให้เกษตรกรและผู้ยากไร้ โดยมีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ทส. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระ ทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องจากที่ดินของรัฐ มีทั้งที่ป่าไม้ ที่อุทยานแห่งชาติ ที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ดินเอกสารสิทธิของกรมที่ดิน ที่ราชพัสดุ ที่นิคมสร้างตนเอง ขณะนี้แต่ละหน่วยงานมีเพียงข้อมูลของตัวเองเท่านั้น จึงต้องปรับแนวเขตให้ถูกต้องและตรงกัน

อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 พ.ย.2561 กำหนดให้ผู้ยากไร้และผู้ที่เข้าทำกินก่อนปี 2557 ได้รับการพิจารณาจัดสรรสิทธิตาม คทช.ดำเนินการ หากบุกรุกหลังปี 2557 ต้องถูกดำเนินคดี รัฐไม่ได้มุ่งที่จะเอาผิดหรือขับไล่กลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ต้องให้มาอยู่ในการจัดระเบียบของรัฐรับรองสิทธิให้อยู่และทำกินอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ พื้นที่ที่ประชาชนเข้าไปทำกินอยู่นานแล้วหรือทำกินอยู่เดิมนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะเปลี่ยนแปลงให้กลับมาเป็นสภาพป่า การแก้ปัญหาต้องสอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ส.ป.ก.ว่า ที่ดินบริเวณหมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เดิมเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2527 ต่อมากรมป่าไม้มอบให้ ส.ป.ก.ในปี 2536 ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินในปี 2554 ทั้งนี้ หลังจากได้รับมอบที่จากกรมป่าไม้แล้ว การที่ ส.ป.ก.จะนำเข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิต้องรังวัดที่ดิน แต่เมื่อแจ้งการเข้ารังวัด ทางครอบครัว น.ส.ปารีณาไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จึงรังวัดแปลงโดยรอบพบว่าเป็นเขตปฏิรูปที่ดินประมาณ 1,000 ไร่ และเป็นเขตป่าไม้ประมาณ 700 ไร่ ดังนั้น การจะเข้ารังวัดครั้งนี้จะได้ข้อมูลชัดเจนว่าที่ดินอยู่ในเขต ส.ป.ก.และกรมป่าไม้จำนวนเท่าใด ทั้งต้องตรวจสอบถึงการได้มา ระยะเวลาที่เข้าครอบครอง หากพบว่า เข้าข่ายยึดครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมายจะดำเนินคดีได้ทั้งตามประมวลกฎหมายปฏิรูปที่ดินและการป่าไม้

เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เดินทางไปยังสำนักงานทรัพยากรป่าไม้จังหวัดราชบุรี ริมแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี เพื่อสอบถามกรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ครอบครองที่ดินกว่า 1,706 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยนายวีระเปิดเผยว่า วันนี้ต้องการเข้าพบป่าไม้จอมบึงเพื่อสอบถามเรื่องที่ว่าเป็นมาอย่างไรและจะถามว่าจะไปแจ้งความด้วยกันหรือไม่ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลกฎหมาย แต่หากไม่ไปตนจะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ด้วยว่าที่ผ่านมาปล่อยปละ ละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมายป่าสงวนที่ป่าไม้ได้ดูแล แต่ไม่มีใครอยู่เลย คงต้องแจ้งความกล่าวโทษกับผู้กระทำความผิดทุกคน เชื่อว่าคนไทยคงได้เห็นแล้ว แม้แต่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นคนพูดเองว่ามีการบุกรุกก่อนที่จะเป็น ส.ป.ก.ชัดเจน ซึ่งกรมป่าไม้คิดว่าละเว้นมานานแล้วตั้งแต่มีการเข้าไปบุกรุกและต้องไปดูในข้อเท็จจริงโดยเอาข้อกฎหมายเป็นตัวตั้ง

จากนั้นนายวีระเดินทางไป สภ.จอมบึง เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติและที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่ดังกล่าว โดยนำเอกสารหลักฐานสำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องมาเป็นหลักฐาน เช่น เอกสารภาพถ่ายทางอากาศ เอกสารข้อมูลของ ร.อ.ธรรมนัสที่กล่าวถึงที่ดินซึ่งมีพื้นที่รวมกว่า 1,706 ไร่ รวมถึงข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พูดถึงที่ดินดังกล่าวผ่านสื่อมวลชนมาแสดงเป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันให้กับพนักงานสอบสวน พร้อมกับลงชื่อกำกับไว้เป็นหลักฐาน โดยมี พ.ต.ท.แมนสรวง กาญจนสะอาด รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.จอมบึง ร่วมตรวจสอบเอกสารประกอบการแจ้งความ

ขณะที่นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้สิ่งที่กรม ป่าไม้ต้องเร่งดำเนินการคือต้องแจ้งความดำเนินคดี โดยประสานข้อมูลกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรืออำเภอว่าใบ ภบท.5 ที่ น.ส.ปารีณาแจ้งครอบครองนั้นได้มาก่อนการประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดเขต ส.ป.ก.หรือไม่ เท่าที่ทราบจากข่าว น.ส.ปารีณา แจ้งครอบครอง ภบท.5 ต่อ ป.ป.ช.ไว้ประมาณ 178 รายการ หากครอบครองมาก่อนปี 2554 ที่มีการประกาศเขต ส.ป.ก.เท่ากับเป็นการบุกรุกป่า มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6-15 ปี และมีโทษสูงสุดถึง 15 ปี และผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 และ 55 ผู้ใดครอบครองรายสุดท้ายถือเป็นผู้บุกรุก มีโทษตั้งแต่ 2-15 ปี โดยกรมป่าไม้ต้องแจ้งความเป็นรายกระทง คือ 170 กว่ากระทง ขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาโทษหนักเบาตามดุลพินิจ คิดเป็นรายคดี ดังนั้นคาดว่าโทษจำคุกก็ตั้งแต่ 356-2,670 ปี

นายดำรงค์กล่าวอีกว่า วันนี้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นที่ดิน ส.ป.ก.แล้วไม่ต้องดำเนินคดี แต่การครอบครอง ภบท.5 ดังกล่าวชัดเจนเพราะมีปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ คือโรงเลี้ยงไก่ และ น.ส.ปารีณาบอกว่าเป็นของตัวเอง จึงไม่ต้องมีการนำชี้เหมือนกรณีอื่นๆเรียกว่ามีตัวผู้ครอบครอง เช่นเดียวกันกรณีผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ พรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ต้องไปตรวจสอบว่า ครอบครองพื้นที่ดังกล่าวมาก่อนมี พ.ร.ฎ.ประกาศเขตปฏิรูปหรือไม่ รัฐบาลจะไปอุ้มคนที่อาจจะมีปัญหาในเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าไม่ได้ ถ้าไปอุ้มจะพังทั้งรัฐบาล การบุกรุกป่าใครก็ช่วยใครไม่ได้ ตนจะแจ้งข้อมูลให้แก่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ทราบ รวมถึงแจ้งไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ โดยเรื่องนี้กรมป่าไม้สามารถไปขอถ่ายสำเนาการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของ น.ส.ปารีณาที่ระบุว่า ครอบครองที่ดิน 178 แปลง โดยอ้างหลักฐานจากการเสียภาษีดอกหญ้าหรือภบท.5 เรื่องนี้กรมป่าไม้สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานพรรคอนาคตใหม่ว่า ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่มี ส.ส.ที่แจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้กับ ป.ป.ช. เป็นที่ดิน ภบท.5 เช่นกัน คือ นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กทม.พรรคอนาคตใหม่ ได้แจ้งครอบครองที่ดิน ภบท.5 เนื้อที่ 10-20 ไร่ เลขที่สำรวจ 341 ในพื้นที่ ม.1 ต.เจาทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ได้มาเมื่อวันที่ 11 ส.ค.2541 ระบุมูลค่า 600,000 บาท ส่วนนายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด พรรคอนาคตใหม่ แจ้งครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 หมายเลข 2404 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เนื้อที่ 22-0-47 ไร่ มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท

นายโชติพิพัฒน์กล่าวว่า ที่ดินดังกล่าวได้มาเมื่อกว่า 20 ปีแล้ว เนื่องจากคนที่ติดหนี้นำมาชำระหนี้ ไม่เคยเข้าไปใช้ประโยชน์หรือทำอะไรในพื้นที่ และได้ขายไปแล้วก่อนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.โดยขายต่อให้คนพื้นที่นำไปทำการเกษตร แต่ที่ยังแจ้งการครอบครองต่อ ป.ป.ช.เพื่อเป็นการป้องกันไว้เพราะที่ดินดังกล่าวไม่สามารถโอนสิทธิ์เปลี่ยนชื่อได้และยังเป็นชื่อเรา และหน่วยงานในพื้นที่ไม่รับชำระภาษี ภบท.5 มาตั้งแต่ปี 2551 แล้ว

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

• “ธรรมนัส” รอกรมป่าไม้-ส.ป.ก. ได้ข้อสรุปที่ดินทับซ้อนของ “ปารีณา”
• “เรืองไกร” จี้รัฐบาลอย่าเพิกเฉย เร่งตรวจสอบที่ดิน “ปารีณา” อย่างเปิดเผย
• ฟาร์มไก่ ปารีณา "หยุดขาย 1 วัน" นักข่าวรอเก้อ ส.ป.ก.ไม่ยอมไปตรวจ

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath