โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วิเคราะห์ "แม่ปุ๊ก" เข้าข่ายป่วยจิตหรือไม่ โซเชียลฯ ตัวกระตุ้น เรียกร้องความสนใจ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 26 พ.ค. 2563 เวลา 10.45 น. • เผยแพร่ 26 พ.ค. 2563 เวลา 10.45 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

แพทย์วิเคราะห์อาการ "แม่ปุ๊ก" ทำร้ายลูกเลี้ยง และลูกตัวเองวัย 2 ขวบ เข้าข่ายป่วยจิตหรือไม่ โซเชียลฯ มีผลกระตุ้นอาการ ใช้เรียกร้องความสนใจ กำลังใจ

วันที่ 26 พ.ค. ในรายการ"ถามตรงๆ กับจอมขวัญ" ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 โดย จอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ มีการพูดคุยกับ คนที่ติดตามเพจของ "แม่ปุ๊ก" สาววัย 29 ปี ซึ่งต้องสงสัยวางยาฆ่า เด็กหญิง 4 ขวบ ลูกบุญธรรม และเด็กชาย 2 ขวบ สาหัส ซึ่งต่อมามีผลดีเอ็นเอ ยืนยันว่า เป็นแม่ลูกกันแท้ๆ 

จากการสอบถาม พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ว่า ทั้งสองคนเป็นแม่ลูกกันหรือไม่ พ.ต.อ.ปทักข์ ระบุว่า ผลอย่างไม่เป็นทางการ แม่ปุ๊ก เป็นแม่ลูกกับเด็กชายวัย 2 ขวบ

เมื่อถามว่า เมื่อเป็นแม่ลูกกันจะมีผลต่อการตัดข้อหาออกหรือไม่  พ.ต.อ.ปทักข์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือไม่ เพราะเป็นการกระทำที่ต่อเด็กแล้ว ข้อหาที่ตั้งขึ้นมาทั้ง 5 ข้อหา ในภาพรวมเชื่อมโยงกันมาตั้งแต่คนแรก คาบเกี่ยวกันมาจนถึงเด็กคนที่ 2 ซึ่งได้ผลประโยชน์ แต่จะผิดไม่ผิด ผิดแค่ไหน อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งหากพบว่า หลักฐานถึงใคร ก็จะดำเนินคดีหมดทุกคน แต่ตอนนี้ ยังเจอแค่"แม่ปุ๊ก" เป็นผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว ซึ่งเราสงสัยได้ แต่ต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดก่อน แต่ในกรณีของ "แม่ปุ๊ก" มีหลักฐานจากแพทย์ จึงค่อนข้างจะชัด

ในส่วนของแม่ตัวจริง ของเด็กหญิง 4 ขวบที่เสียชีวิตไป พ.ต.อ.ปทักข์ ระบุว่า สอบปากคำไปแล้ว จากคำให้การ ตอนนี้เชื่อว่า ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือรู้เห็น กับการกระทำของ"แม่ปุ๊ก" แต่อย่างใด อีกทั้ง ทั้งคู่ก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย ตอนนี้เราให้ข้อมูลได้แค่นี้ เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวน

ขณะที่เงินหมุนเวียนในบัญชีนั้น พ.ต.อ.ปทักข์ เผยว่า เนื่องจากการทำธุรกรรมทำหลายครั้ง แต่ละครั้งจะเป็นค่าอะไรบ้าง จะเป็นเงินบริจาค หรือเงินจากการขายสินค้า ต้องตรวจสอบ แต่เม็ดเงินขาเข้ามีประมาณ 11 ล้านบาทเศษ และเงินหมุนเวียน ทั้ง 5 บัญชี ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนเงินคงเหลือนั้น ตอนนี้เหลือแค่หลักร้อย โดยพบว่า เงินเข้ามา ก็จะถูกถ่ายโอนไปแทบจะหมดแล้ว แต่จะถ่ายโอนไปไหน อันนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ 

เมื่อถามถึง เด็กชาย 2 ขวบ พ.ต.อ.ปทักข์ เผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ผลตรวจว่า ได้รับสารเคมีชนิดใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความละเอียดในการตรวจสอบ

ขณะที่ประวัติการรักษาสุขภาพของแม่ปุ๊กนั้น ยังไม่พบว่า ที่ผ่านมา มีประวัติเข้ารับการรักษาทางจิต ซึ่งหากพยานหลักฐาน และผลตรวจทุกอย่างครบถ้วนเมื่อไหร่ ก็จะได้ส่งอัยการทันที

สำหรับ 5 ข้อหา ในคดีแม่ปุ๊ก คือ รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ฉ้อโกงประชาชน

เมื่อถาม อ.ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดี สำนักงานอัยการสูงสุด ถึงกรณีที่หากพบว่า เป็นแม่ลูกกันจริงๆ จะมีผลในเรื่องการต่อสู้ในชั้นศาลหรือไม่ อ.ปรเมศวร์ ยืนยันว่า ไม่มี เพราะถ้ากระทำอย่างเดียวกันในเด็ก 2 คน ก็ควรจะโดนข้อหาเดียวกัน 

เมื่อถามว่า หากแม่ปุ๊ก ตกเป็นจำเลย จะมีการพิจารณาแยกหรือไม่ อ.ปรเมศวร์ ยืนยันว่า คงไม่แยก พฤติกรรมที่ทำกับเด็ก 2 ขวบ อาจจะถูกเพิ่มโทษก็ได้ เพราะว่าเป็นลูกแท้ๆ 

ส่วนถ้ามีประวัติการรักษาอาการทางจิต จะมีผลทางคดีหรือไม่ อ.ปรเมศวร์ เชื่อว่าไม่มีผล เพราะมีสติ รู้สำนึก รู้ผิดชอบชั่วดี ส่วนที่สงสัยว่าจะมีคนรู้เห็นกับแม่ปุ๊กด้วยหรือไม่ ก็ต้องดูว่าสนับสนุนหรือไม่ ถ้าสนับสนุน สมคบคิด ก็มีโทษเท่ากัน

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว เผยว่า การดูแลเด็กไม่เหมาะสม หลายรูปแบบ เป็นปัญหาที่เกิดมากในบ้านเรา และมีแนวโน้มว่ามากขึ้นด้วย แต่จากข่าว พบว่า ผู้ปกครองพาเด็กมาโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการ เจ็บป่วย ที่ตนเองเป็นคนกระทำขึ้นมาเอง และได้รับความสนใจในการตรวจรักษา ก็ถือเป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่งของผู้ดูแล ในการเรียกร้องความสนใจจากสังคม และจากผู้อื่น โดยใช้เด็กเป็นตัวแทนความเจ็บป่วย เพราะคนเหล่านี้ อาจจะมีปัญหาในวัยเด็ก อาจได้รับการเลี้ยงดูมาก่อน ขาดความรักความอบอุ่น จนเกิดเป็นอาการทางจิต และแสดงออกมา

นอกจากนี้ โซเชียลมีเดีย ในปัจจุบัน อาจจะเป็นช่องทางการกระตุ้นกลุ่มอาการของโรคก็ได้ เพราะจากที่เรียกร้องความสนใจจากแพทย์ พยาบาล เปลี่ยนเป็นการโพสต์รูปคนป่วยลงไป แล้วมีสังคมแห่กันมาช่วยแสดงความเห็นใจ ให้กำลังใจ 

เมื่อถามถึงกรณีที่แม่ปุ๊กไลฟ์สด ช่วงที่ ด.ญ. 4 ขวบ กำลังจะหมดลม รศ.นพ.อดิศักดิ์ เผยว่า พฤติกรรมของคนที่ใช้โซเชียลฯ ในการแก้ปัญหาสุขภาพจิตของตัวเอง มีหลายรูปแบบ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราต้องตามดู แต่ไม่ใช่ว่า ผู้กระทำไม่มีความผิด และจะต้องได้รับการดำเนินการทางกฎหมาย แต่หากมีสุขภาพจิตไม่สมบูรณ์ ก็ต้องได้รับการดำเนินการทางกฎหมาย ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรม ก็เป็นความจำเป็นที่ต้องได้รับการวินิจฉัย แต่โรคนี้ เป็นโรคที่วินิจฉัยยาก แต่ต้องทำให้ได้ เพราะมีการกระทำซ้ำ จนมีคนเสียชีวิต จึงจำเป็นต้องรีบวินิจฉัย 

เมื่อถามว่า หากมีอาการทางจิตจริง จะมีผลต่อเด็กหรือไม่ ว่าจะเป็นลูกจริง หรือลูกเลี้ยง รศ.นพ.อดิศักดิ์ ระบุว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะมีหลายราย ที่กระทำแบบนี้กับลูกตัวเองเช่นกัน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0