เป็นเวลาราว 2 สัปดาห์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาปล้นทองลพบุรี คือ นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือนายกอล์ฟ ซึ่งหลายคนเรียกว่าอาจารย์กอล์ฟ อายุ 38 ปี ซึ่งยังเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี จนหลายคนเอ่ยปากว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นผอ.กอล์ฟ ล่าสุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ว่าจับกุมผู้ต้องหาชิงทองลพบุรีได้แล้ว เพียงแต่รายละเอียด จะขอแถลงในวันที่ 23 ม.ค.2563 เวลา 10.30น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)
เปิดภาพหน่วยหนุมาน กองปราบปรามรวบ “ประสิทธิชัย เขาแก้ว” พร้อมหมายจับ!
ย้อนไทม์ไลน์ “โจรปล้นทอง” ลพบุรีสู่การจับกุม “ประสิทธิชัย เขาแก้ว”
วันนี้(22 ม.ค.63) รายการ เป็นเรื่องเป็นข่าว วิเคราะห์กรณีนี้ ในตอน จับ! คนร้าย “กราดยิงชิงทอง” โดยได้เชิญ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต มาวิเคราะห์อย่างละเอียด
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ วิเคราะห์ ว่า ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร ประชาชน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจนสืบและจับกุมคนร้ายได้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นการหาหลักฐานเรื่องทอง ถือเป็นหลักฐานสำคัญ โดยหากเขารับสารภาพว่า เอาทองไปทิ้งน้ำ และตำรวจหาเจอก็จะสอดรับกับคำสารภาพของเขา อย่างไรก็ตาม ต้องเรียนว่า ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ตามกฎหมาย จะให้การรับสารภาพ หรือไม่รับ หรือโกหกก็ได้ จึงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง
เมื่อสอบถามว่ามีการส่งทีม “หนุมาน” ติดตามผอ.กอล์ฟ มาตั้งแต่แรก เพราะเป็น 1 ในผู้ต้องสงสัย จนได้หลักฐานเพียงพอ แต่ที่น่าตกใจคือ เจ้าตัวจบปริญญาโท และเป็นผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สิงห์บุรี และขับรถบีเอ็มฯ อีกต่างหาก จึงทำให้สงสัยว่า เพราะอะไรจึงก่อเหตุครั้งนี้
เบื้องหลังการจับกุม ‘โจรปล้นทอง’ ลพบุรี พร้อมแรงจูงใจก่อเหตุ!!
“ต้องเรียนว่า ในส่วนของตำแหน่งหน้าที่การงาน จนสังคมตั้งคำถามว่าไม่น่าไปทำ จริงๆ เรื่องนี้เรามองเพียงภายนอก เราไม่รู้สภาพจิตใจ การคิด ภูมิหลัง ก็ต้องไปสอบถามคนใกล้ชิดพอจะรู้บ้าง แต่หากถามว่าทำไมต้องชิงทอง ก็อาจเพราะคนร้ายคิดว่าอำพรางตัวที่สุดแล้ว ทั้งอำพรางใบหน้า เตรียมพร้อมเส้นทางหลบหนี แต่ในการเรียนการสอนตำรวจทั่วโลกบอกว่า ทุกการกระทำผิดของคนร้ายจะทิ้งหลักฐานไว้หมดไม่มากก็น้อย” รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ ตอบ
เมื่อถามว่า กรณีที่มีรายงานว่า นายกอล์ฟ ให้การกับตำรวจว่า ตัวเองมีความเครียด เบื่อ ต้องการความท้าทาย ต้องการสีสัน และวันก่อเหตอยากให้ตำรวจวิสามัญ หากเป็นจริงวิเคราะห์จิตใจได้หรือไม่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ กล่าวว่า จริงๆ ผู้ต้องหาจะให้การจริงก็ได้ โกหกก็ได้ ส่วนที่พูดแบบนั้น เมื่อพิจารณาพฤติกรรมเข้าไปในห้าง การก่อเหตุไม่ได้เป็นอย่างที่บอกว่าอยากให้วิสามัญ เพราะหากต้องการจริง นั่งรอกินกาแฟก็ได้ เพราะตำรวจไม่นานก็มาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อตำรวจมาถึงก็จะให้วางอาวุธ และหากเขายิงสู้ ตามกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็ยิงได้ ดังนั้น หากมีคำให้การนี้ก็ดูจะขัดแย้งกับความจริง
เมื่อถามว่า เหงื่อสามารถตรวจได้จริงหรือไม่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ กล่าวว่า ทุกการกระทำของคนร้ายทิ้งการกระทำไว้หมด แม้กระทั่งบนโลกออนไลน์ กรณีนี้ก็เช่นกัน แม้จะพรางตัว แต่ถุงมือที่คนร้ายใส่ ไม่น่าใส่ครั้งแรก อาจถอดเข้าถอดออกให้ชำนาญเวลาก่อเหตุ ตรงช่วงนี้ก็อาจเป็นจริง และหากบอกว่าเป็นเหงื่อ ถ้ามีนิวเคลียส์ของเซลล์ เรามองตาเปล่าไม่เห็น แต่ผู้เชี่ยวชาญก็มีวิธีในการตรวจหมด ดังนั้น อย่าก่อเหตุกระทำความผิดดีที่สุด
