โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ เนย์มาร์ (อาจจะ) รีเทิร์น กลับไปที่ บาร์เซโลน่า

ขอบสนาม

อัพเดต 15 ก.พ. 2561 เวลา 03.21 น. • เผยแพร่ 07 เม.ย. 2563 เวลา 02.46 น.
วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ เนย์มาร์ (อาจจะ) รีเทิร์น กลับไปที่ บาร์เซโลน่า

กลายเป็นข่าวในกระแสที่ได้รับการจับตามองอีกครั้งเกี่ยวกับการรีเทิร์นสู่ บาร์เซโลน่า ของ เนย์มาร์ ที่มีประเด็นออกมาว่าทาง 'อาซูลกราน่า' พร้อมดึงกลับมาไล่ล่าตาข่ายให้ทีมอีกครั้ง

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราเลยได้ทำการวิเคราะห์ว่าพอจะมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ดีลนี้มันเกิดขึ้น และ เนย์มาร ได้กลับมาไล่ล่าตาข่ายในถิ่นคัมป์ นู อีกครั้ง

ยังหาตัวแทน เนย์มาร์ ไม่ได้

นับตั้งแต่ที่ เนย์มาร์ โยกย้ายออกจากรัง คัมป์ นู เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2017 ด้วยค่าตัว 222 ล้านยูโร ทางด้าน บาร์เซโลน่า ก็มองหาตัวแทนที่เหมาะสมในการเข้ามาอุดรอยรั่วที่สตาร์ชาวบราซิลได้ทิ้งเอาไว้ โดยรายแรกพวกเขาไม่รีรอนานยอมควักเงินจำนวน 105 ล้านยูโร คว้าตัว อุสมาน เดมเบเล่ จาก โบรุสเซีย ดอร์มุนด์ มาร่วมทัพในทันที แต่ทว่าดาวเตะวัย 22 ปี กลับใช้ชีวิตบนเตียงหมอมากกว่าในสนามฟุตบอล ทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ซึ่งทำให้ตัวแทนรายแรกคนนี้สอบตกแบบไม่ได้ให้แฟนบอลได้ลุ้นกันเลยทีเดียว 

ส่วนคนต่อมาก็คือ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ล้มเหลวแบบไม่เป็นท่าจนกลายเป็นแข้งส่วนเกินของทีมในตอนนี้เท่ากับว่าเงินจำนวน 145 ล้านยูโร นั้นได้ตำพริกละลายแม่น้ำไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย จนกระทั่งมาถึงรายล่าสุดอย่าง อ็องตวน กรีซมันน์ ที่เหมือนว่าจะเจอจิ๊กซอว์ที่ตามหามานาน แต่ทว่าพอลงสนามไปเล่นจริงกับต้องพบเจอกับความยากลำบากในการปรับตัว ทำให้ฟอร์มในสนามไม่เป็นที่น่าประทับใจของเหล่าสาวก "อาซูลกราน่า" และบอร์ดบริหาร 

ซึ่งเมื่อเอาผลงานของทั้ง 3 หน่อ มารวมกันตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา ลงสนามไปทั้งสิ้น 186 นัด ซัดประตูรวมกันได้เพียง 54 ตุงเท่านั้น โดยแบ่งเป็น เดมเบเล่ 19 ประตู, คูตินโญ่ 21 ประตู และกรีซมันน์ 14 ประตู

เมื่อกางตัวเลขออกมาแบบนี้เมื่อนำมาเทียบกับสิ่งที่ เนย์มาร์ ทำเอาไว้ก่อนหน้า มันสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าคนละหน้ามือกันเลย เพราะซุปตาร์บราซิล กระหน่ำประตูไปถึง 105 ประตู จากการลงสนาม 186 นัด ตลอด 4 ปี กับทีม

เพราะฉะนั้นในเมื่อตัวแทนที่พวกเขาเลือกมามันไม่อาจทดทแนคนที่หายไปได้ การที่ บาร์เซโลน่า คิดการใหญ่จะกลับไปดึง เนย์มาร์ กลับมาบัญชาเกมแบบเก่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดหมาย เพราะพื้นที่ตรงนี้สตาร์ผู้นั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าต้องเล่นในสไตล์ไหน และสอดประสานงานกับลูกพี่อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ อย่างไร

ความคุ้นเคยของ เนย์มาร์

ถ้าจะบอกว่าช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของ เนย์มาร์ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามันคือห้วงเวลาในสีเสื้อของ บาร์เซโลน่า ในช่วงระยะกว่า 4 ปีของเจ้าตัว เพราะไม่ใช่แค่ผลงานในสนาม และตัวเลขการยิงประตู แต่มันรวมไปถึงความสำเร็จที่เจ้าตัวไขว่คว้ามาครองได้อย่างมากมาย

ถึงแม้ระยะเวลา 4 ปี ในถิ่นคัมป์ นู อาจไม่ได้เป็นช่วงที่ยาวนานเสียเท่าไหร่ แต่สิ่งนึงที่ต้องยอมรับคือ เนย์มาร์ มีอิทธิพลต่อทีมมากพอสมควร และรู้ตื้นลึกหนาบางของสโมสร,  ซึบซับความเป็น บาร์เซโลน่า และรู้ว่าเมื่อต้องลงสนามไปสิ่งที่เขาต้องทำคืออะไร และต้องเล่นในรูปแบบไหน เพื่อผลการแข่งขันที่ดีของทีม เพราะฉะนั้นแล้วถ้าการได้ เนย์มาร์ กลับมาสู่รังอีกครั้ง มันก็เหมือนได้คนรู้ใจกลับมา ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่ถูกใจใครหลายคนไม่ใช่น้อย

ความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย

อย่างที่เราทราบกันว่าเมื่อช่วงตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาข่าวที่หนาหูของ เนย์มาร์ นั้นก็คือการที่เจ้าตัวไม่มีความสุขอีกแล้วในการค้าแข้งที่เมืองหลวงประเทศฝรั่งเศส และบวกกับข่าวที่ออกมาว่าทาง เปแอสเช เองก็พร้อมปล่อยสตาร์คนนี้ออกจากทีมอีก มันยิ่งเป็นเหมือนแรงเหวี่ยงทวีคูณเข้าไปอีก ประจวบเหมาะกับข่าวที่ออกมาว่าทาง บาร์เซโลน่า เองก็อยากได้ตัวกลับไป เพราะไม่พอใจกับผลงานของ กรีซมันน์ ที่ไม่เอาฝักเสียที 

ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นข่าวล่าสุดที่ออกมาว่า เปแอสเช ปักป้ายขาย เนย์มาร์ ไว้ที่ 135 ล้านปอนด์ ส่วนทาง บาร์ซ่า ต้องการปล่อย กรีซมันน์ ออกจากทีมด้วยราคา 88 ล้านปอนด์ ทำให้ดีลสลับขั้วของทั้งคู่อาจเกิดขึ้นก็เป็นได้ โดยมีเงินส่วนต่างนิดหน่อยในการแลกเปลี่ยน

และเมื่อเป็นเช่นนั้นเชื่อว่ามันจะเป็นการตอบโจทย์ทั้ง เนย์มาร์ และ บาร์เซโลน่า ที่ได้วนกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ตามเจตนาของทั้ง 2 ฝ่าย

MSN รีเทิร์น

เชื่อว่าสิ่งนึงที่แฟนบอล บาร์เซโลน่า อยากเห็นอีกสักครั้งนั้นก็คือการกลับมาประสานกันอีกครั้งของ เมสซี่, ซัวเรซ และเนย์มาร์ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปนี่คือแนวรุกที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรป หรือของโลกในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ 

แต่การกลับมาร่วมงานกันครั้งนี้อาจไม่ได้ไฉไลเหมือนที่ผ่านมา เพราะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นของแต่ละคนอย่างเช่น ซัวเรซ ที่ปาเข้าไป 33 ปี เข้าให้แล้ว แต่สิ่งที่เชื่อว่าทั้ง 3 ยังมีเหมือนกันคือความรู้ใจ และเข้าขากันเป็นอย่างดี และถ้าได้กลับมาล่าตาข่ายร่วมกันอีกครั้งเชื่อว่า บาร์เซโลน่า จะกลับมาน่าเกรงขามอีกครั้ง และพร้อมไล่ล่าทุกแชมป์อีกครั้ง โดยเฉพาะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขาตามหามาตั้งแต่ฤดูกาล 2014-15

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0