โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

Thaiware

อัพเดต 27 มี.ค. 2563 เวลา 14.30 น. • เผยแพร่ 27 มี.ค. 2563 เวลา 14.30 น.
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่มือถือสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ให้คุณสามารถใช้ได้ยาวๆ

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบน iOS และ Android

เชื่อว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ทั้งที่ใช้ระบบปฏิบัติการยอดฮิตทั้ง 2 ค่าย อย่าง Android และ iOS หลายคนคงเคยประสบกับปัญหา แบตเตอรี่หมดเร็ว ใช้งานได้ไม่ถึงวันก็ต้องนำไปชาร์จ หรือต้องพก แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ติดตัวอยู่ตลอด แต่ในทิปส์นี้เราจะมาแนะนำวิธีการประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นโดยการปรับเปลี่ยนการใช้งานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

โดยการตั้งค่าต่างๆ ของ iPhone และ iPad บางรุ่นอาจมีความต่างกันเล็กน้อย และสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Android ก็อาจมีการตั้งค่าที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ แต่ในบทความนี้จะใช้การตั้งค่าต่างๆ ของ Samsung มายกตัวอย่างเท่านั้น

ใช้งานสมาร์ทโฟนอย่างเหมาะสมและเก็บในอุณหภูมิที่พอดี

หลายครั้งที่ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมเกิดมาจากการใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการพักเครื่อง ดังนั้นหาก ใช้งานสมาร์ทโฟนจนเริ่มรู้สึกว่าเครื่องร้อนแล้วก็ควรหยุดพักการใช้งานสักระยะ เพื่อที่จะให้เครื่องมีการระบายความร้อนออกก่อนนำมาใช้งานอีกครั้ง และไม่ควรวางมือถือทิ้งไว้ในที่ที่อากาศร้อนหรือเย็นจัดที่ไม่มีการถ่ายเทของอากาศเป็นเวลานาน ซึ่งวิธีนี้ สามารถใช้ได้กับทั้งผู้ที่ใช้อุปกรณ์พกพา (สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต) บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เลย

และสำหรับใครที่ใช้งานสมาร์ทโฟนค่อนข้างหนักก็อาจเลือกใช้สมาร์ทโฟนที่มีระบบระบายความร้อนที่ช่วยรักษาการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ ไม่ว่าจะเป็น Xiaomi Pocophone F1, Samsung Galaxy Note 10 หรือสมาร์ทโฟนเกมมิ่งอย่าง Nubia, Xiaomi Black Shark, ASUS ROG และสมาร์ทโฟนเกมมิ่งรุ่นอื่นๆ 

ลดความสว่างของการแสดงผลหน้าจอ

ความสว่างของหน้าจอนั้นกินพลังงานแบตเตอรี่ไปไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงควรปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละช่วงวันด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถตั้งการปรับความสว่างหน้าจอแบบอัตโนมัติได้อีกด้วย

วิธีลดความสว่างของหน้าจอบน iOS

สำหรับ iPhone X ขึ้นไป สามารถปรับความสว่างของหน้าจอได้โดยการเปิด Control Center ด้วยการปัดนิ้วบริเวณด้านขวาบนของหน้าจอลง (ส่วน iPhone รุ่นที่มีปุ่มโฮมให้ปัดขึ้นเพื่อเรียกใช้ Control Center) และปรับความสว่างของหน้าจอด้วยการปรับแถบ Brightness หรือเข้าไปที่Setting > Display & Brightness และปรับความสว่างของหน้าจอตามต้องการ

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้ปรับความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติได้ด้วยการไปที่Setting > General > Accessibility > Display Accommodations และเปิด Auto-Brightness

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://support.apple.com/en-us/HT202613

วิธีลดความสว่างของหน้าจอบน Android

สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ให้เรียกใช้Quick Panel ด้วยการปัดหน้าจอลง จากนั้นปรับความสว่างที่แถบBrightness หรือกดที่ ⌵ เพื่อดูเมนูเพิ่มเติมและกดที่ Adaptive Brightness เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอแบบอัตโนมัติ หรืออาจเข้าไปที่Setting > Display และเลือกปรับความสว่างหน้าจอหรือเปิดใช้การปรับแสงหน้าจออัตโนมัติได้จากเมนูนี้

 

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://community.coloros.com/thread-19957-1-1.html

ปรับเวลาการล็อคหน้าจออัตโนมัติ (Auto-Lock) ให้เร็ว

การเปิดหน้าจอค้างไว้เป็นเวลานานนั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วได้ เพราะต้องใช้พลังงานไปกับการแสดงผลบนหน้าจอที่มีความคมชัด และความละเอียดสูง ซึ่งโดยปกติแล้วค่าเริ่มต้นของเวลาการล็อคหน้าจออัตโนมัติจะอยู่ที่ประมาณ 2 นาที แต่เราก็สามารถเข้าไปปรับเวลาการล็อคหน้าจออัตโนมัติได้เองด้วยเช่นกัน

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://im2.ezgif.com/tmp/ezgif-2-6a0372aacdb8.gif

วิธีล็อคหน้าจออัตโนมัติบน iOS

ในระบบปฏิบัติการ iOS สามารถเลือกปรับเวลาการล็อคหน้าจออัตโนมัติได้ที่เมนู Settings > Display & Brightness > Auto-Lock

วิธีล็อคหน้าจออัตโนมัติบน Android

ส่วนระบบปฏิบัติการAndroid ให้เข้าไปที่ Setting > Display > Screen Timeout และเลือกปรับเวลาการล็อคหน้าจอตามความเหมาะสม

ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานทิ้งไป

เรามักกดปิดแอปพลิเคชันหลังใช้งานเสร็จด้วยการกลับไปที่หน้าโฮมและเปิดใช้แอปพลิเคชันอื่นๆ ต่อโดยที่ไม่ได้ปิดแอปพลิเคชันเดิมทิ้ง ทำให้แอปพลิเคชันที่ยังไม่ได้ปิดลงนั้นยังมีการทำงานอยู่และกินแบตเตอรี่ได้

วิธีปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานบน iOS

โดยiPhone X ขึ้นไปที่ไม่มีปุ่มโฮมแล้วสามารถเรียกดูแอปพลิเคชันที่เปิดค้างไว้ได้โดย ปัดหน้าจอด้านล่างขึ้น และเลือก ปิดแอปพลิเคชัน ที่ไม่ต้องการใช้งานได้ด้วยการเลื่อนขึ้น ส่วนใน iPhone และ iPad รุ่นอื่นๆ ที่ยังมีปุ่มโฮมให้ กดปุ่มโฮม 2 ครั้งและเลื่อนขึ้นเพื่อปิดการทำงานของแอปพลิเคชัน ที่ไม่ต้องการ

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://ios.gadgethacks.com/how-to/force-close-running-apps-your-iphone-11-11-pro-11-pro-max-0208661/

วิธีปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานบน Android

สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android นั้นให้กดที่ปุ่ม Recent ที่อยู่ข้างปุ่มโฮม (โดยรูปร่างของปุ่มจะแตกต่างกันไปตามรุ่นและยี่ห้อของสมาร์ทโฟน Android ไม่ว่าจะเป็น|||, ≡, ☐ หรือใช้การปัดหน้าจอด้านล่างขึ้น) เพื่อเรียกดูแอปพลิเคชันที่ใช้งานค้างไว้ และเลือก ปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการใช้ด้วยการเลื่อนขึ้น หรือกดที่ Close all เพื่อปิดแอปพลิเคชันทั้งหมด

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://android.gadgethacks.com/how-to/get-android-p-style-multitasking-your-galaxy-s8-s9-0185361/

เช็คการใช้งานแบตเตอรี่ และ ปิดการใช้งาน Background App

บางแอปพลิเคชันจะมีการดึงข้อมูลการทำงานของอุปกรณ์ของเราและทำให้เครื่องทำงานหนักจนเกิดความร้อนได้ง่าย แต่นอกจากจะสังเกตที่ความร้อนของเครื่องแล้วเราก็สามารถเข้าไปเช็คการใช้งานแบตเตอรี่ของแต่ละแอปพลิเคชันได้ในเมนูการตั้งค่า และลดการใช้งานแอปพลิเคชันนั้นๆ ลงหากไม่จำเป็น และบางแอปพลิเคชันก็มีการทำงานแบบ Backgroud App (แอปพลิเคชันที่มีการทำงานอยู่แม้จะปิดแอปพลิเคชันลงแล้ว) ที่กินแบตเตอรี่แม้ไม่ได้มีการเรียกใช้งาน

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://pa1.narvii.com/6853/a5aa3ddac5907ebb0d33f9a0e06b61220cb1a7f6_hq.gif

วิธีเช็คการใช้งานแบตเตอรี่บน iOS

สำหรับiOS ให้เช็คที่Setting > Battery ก็จะเห็นว่าแอปพลิเคชันใดที่ใช้งานแบตเตอรี่หนัก และสามารถเลือกดูจำนวนเวลาการใช้งานแอปพลิเคชันได้ด้วยการกดที่ Show Activity จากนั้นจะเห็นข้อมูลการใช้งานของ Background App และสามารถกด ปิดการทำงานได้ที่ Setting > General > Background App Refresh และกดปิดการทำงานเบื้องหลังของแอปพลิเคชันนั้นๆ

วิธีเช็คการใช้งานแบตเตอรี่บน Android

ส่วน Android เข้าไปที่ Setting > Battery > Battery Usage จากนั้นจะเห็นจำนวนการใช้งานแบตเตอรี่ของแต่ละแอปพลิเคชันในขณะใช้งาน รวมทั้งรายชื่อของแอปพลิเคชันที่มีการทำงานแบบBackground App และสามารถเลือกปิดการใช้งาน Background App ได้ด้วยการ กดเข้าไปที่ไอคอน ของแอปพลิเคชันนั้นๆ และเลือก Put app to sleep ก็จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้

ใช้งาน Wi-Fi แทน 4G และปิดการใช้งาน 4G ขณะเชื่อมต่อ Wi-Fi

การใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบ 4G ของเครือข่ายมือถือค่ายต่างๆ นั้นใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าการใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi อยู่มาก ดังนั้นหากอยู่ในที่ที่มีสัญญาณก็ควรสลับไปใช้ Wi-Fi จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่า และควรปิดการใช้งาน 4G ลงขณะเชื่อมต่อ Wi-Fi ด้วย

วิธีปิดการเชื่อมต่อ 4G หรืออินเทอร์เน็ตจากสัญญาณมือถือ บน iOS

โดย iOS สามารถปิดการทำงานของอินเตอร์เน็ตจากซิมมือถือได้โดยการเรียกใช้ Control Center และกดปิด Cellular หรือเข้าไปที่ Setting > Cellular data (หรือ Mobile Data สำหรับผู้ที่ใช้ภาษาเครื่องเป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) และเลื่อนปิดการทำงาน

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : http://www.iphonehacks.com/2016/10/how-to-reduce-iphone-mobile-data-usage.html

วิธีปิดการเชื่อมต่อ 4G หรืออินเทอร์เน็ตจากสัญญาณมือถือ บน Android

ส่วนในAndroid เปิด Quick Panel ขึ้นมาและกดปิดที่ Mobile data หรือไปที่ Setting > Connection > Data usage และกดปิดการทำงานของ Mobile data

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

าพจาก : http://inside-galaxy.blogspot.com/2015/02/samsung-galaxy-s5-how-to-turn-on-mobile.html

ปิดการแจ้งเตือน (Notification) ด้วยเสียงและการสั่น

การแจ้งเตือน (Notification) ก็มีส่วนในการใช้งานแบตเตอรี่เช่นกัน ซึ่งหากต้องการที่จะประหยัดแบตเตอรี่ก็อาจกดปิดการแจ้งเตือนในระบบเสียงและการสั่น หรือหากเป็นแอปพลิเคชันที่ไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องใช้งานในขณะนั้นก็อาจกดปิดการแจ้งเตือนไปก่อน

วิธีการปิดการแจ้งเตือนบน iOS และ Android

โดยการปิดการแจ้งเตือนนั้นสามารถทำได้ทั้งภายในตัวแอปพลิเคชันนั้นๆ และในเมนู Setting > Notification จากเลือกปิดการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันตัวที่เราต้องการ หรือจะเลือกที่ "เมนู Do Not Disturb" เพื่อปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด ก็สามารถทำได้เช่นกัน

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภ่าพจาก : https://thumbs.gfycat.com/SizzlingUniformHorsechestnutleafminer-size_restricted.gif

นอกจากนี้ สำหรับระบบ Android ในบางแอปพลิเคชันจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงการแจ้งเตือนในเรื่องใดบ้าง และเลือกปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นออกไปได้

ปิดการใช้งาน Location และจำกัดการเข้าถึง Location Service

หลายคนอาจเปิดใช้งาน Location หรือการระบุตำแหน่งไว้เพราะความสะดวกในการใช้งาน แต่บางแอปพลิเคชันก็มีการดึงข้อมูล Location ไปใช้ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้เปิดใช้งาน ดังนั้นจึงควรตรวจเช็คและปิดการเข้าถึงข้อมูลของแอปพลิเคชันนั้นๆ ให้ใช้งานเฉพาะตอนที่เปิดแอปพลิเคชันเท่านั้น หรือหากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้การระบุตำแหน่งก็อาจกดปิด Location ไปก่อน

วิธีการปิดการใช้งานระบบระบุตำแหน่งบน iOS

สำหรับiOS ปิดการใช้งาน Location ได้ที่ Setting > Privacy > Location Service และจะเห็นรายชื่อแอปพลิเคชันที่เข้าถึงข้อมูล Location และจะสามารถปิดการใช้งานได้จากหน้านี้

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://www.gcgtech.co.nz/battery/

วิธีการปิดการใช้งานระบบระบุตำแหน่งบน Android

ในขณะที่ระบบปฏิบัติการ Android สามารถปิดการใช้งาน Location ได้โดยการเปิดQuick Panel และกดปิดการใช้งาน หรือเข้าไปปิดการเข้าถึง Location ของแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ที่ Setting > Location > App Permission จากนั้นจะเห็นรายชื่อแอปพลิเคชันที่เข้าถึงข้อมูล Location ของเรา และเลือก กดปิด หรือปรับรูปแบบการเข้าถึงข้อมูล ได้จากในเมนูนี้

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://www.androidauthority.com/turn-off-gps-1040167/

ปิดการใช้งาน Bluetooth เมื่อไม่จำเป็น

การเปิดใช้งาน Bluetooth ไว้ตลอดเวลานั้นเปลืองแบตเตอรี่อยู่พอสมควร แต่ในช่วงที่ Wireless กำลังได้รับความนิยมนี้ก็ดูเหมือนจะทำได้ยากอยู่สักหน่อย เพราะอุปกรณ์รอบตัวก็ดูเหมือนจะใช้งานร่วมกับ Bluetooth กันเป็นส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็น Smart Band หรือหูฟังแบบ Wireless ซึ่งหากต้องการที่จะประหยัดแบตเตอรี่ก็อาจลดการใช้งานอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Bluetooth ลง หรือกลับไปใช้งานหูฟังแบบมีสายแทน

วิธีการปิดการใช้งานการเชื่อมต่อ Bluetooth บน iOS

สำหรับiOS ปิดการใช้งาน Bluetooth ได้ด้วยการเรียกใช้ Control Center และกดปิด Bluetooth หรือเข้าไปที่ Setting > Bluetooth และปิดการเชื่อมต่อ

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://www.lifewire.com/how-to-turn-off-bluetooth-on-phones-4171879

วิธีการปิดการใช้งานการเชื่อมต่อ Bluetooth บน Android

ในขณะที่การปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth บนระบบปฏิบัติการ Android นั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกัน เพียงแค่เปิด Quick Panel ขึ้นมาและ ปิด Bluetooth หรือไปที่ Setting > Connection และกดปิดการเชื่อมต่อกับ Bluetooth 

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://c.mi.com/thread-1694696-1-0.html

ปิดการอัปเดตแอปพลิเคชันอัตโนมัติ (Auto Update Application)

การที่แอปพลิเคชันมีการอัปเดตแบบอัตโนมัติอาจช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเพราะไม่ต้องคอยเข้าไปกดอัปเดตแอปพลิเคชันบ่อยๆ แต่การที่แอปพลิเคชันมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลานั้นก็ทำให้เปลืองแบตเตอรี่เช่นกัน ดังนั้นจึงควรปิด Auto Update ลงและเลือกให้มีการอัปเดตเฉพาะแอปพลิเคชันที่ต้องการ

วิธีปิดการอัปเดตแอปพลิเคชันอัตโนมัติบน iOS

สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS สามารถปิดการอัปเดตแอปพลิเคชันแบบอัตโนมัติได้ที่ Setting > iTunes & App Store และกดปิด Updates

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://www.gcgtech.co.nz/battery/

วิธีปิดการอัปเดตแอปพลิเคชันอัตโนมัติบน Android

สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ก็สามารถปิดระบบการแอปพลิเคชันอัตโนมัติต่างๆ ได้โดยการเข้าไปใน Google Play Store > Profile > Setting > Auto-update apps > Don’t auto-update apps 

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

เปิดการใช้งาน Dark Mode และใช้รูปวอลเปเปอร์ที่มีสีเข้ม

การใช้งานโหมดมืด (Dark Mode) นอกจากจะทำให้รู้สึกสบายตามากขึ้นขณะใช้งานแล้วยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกส่วนหนึ่ง และควรเปลี่ยนวอลเปเปอร์เป็นโทนสีเข้มด้วย เพราะการแสดงผลหน้าจอที่มีหลากสีสันหรือสีโทนอ่อนนั้นต้องใช้พลังงานในการแสดงผลสีของหน้าจอมากกว่าโทนสีเข้มนั่นเอง

การเปิดการใช้งาน Dark Mode บน iOS

สำหรับiOS เปิด Control Center จากนั้น กดค้างที่แถบปรับแสงหน้าจอและเลือกที่ Dark Mode หรือเข้าไปที่Setting > Display & Brightness และกดเปิดการทำงานของ Dark Mode นอกจากนี้ยังสามารถเลือก ตั้งเวลาการใช้ Dark Mode ได้อีกด้วย

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://support.apple.com/en-us/HT210332

การเปิดการใช้งาน Dark Mode บน Android

ส่วนใน Android เรียกใช้ Quick Panel และเลือกที่ Dark Mode เพื่อเปิดใช้งาน หรือไปที่ Setting > Display และเปิด Dark Mode และควรเลือกใช้ Theme และวอลเปเปอร์ที่ไม่เคลื่อนไหวและมีสีเข้ม ร่วมด้วย

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://baomoi.com/den-hoa-toan-bo-giao-dien-dien-thoai-cua-ban-voi-dark-theme-cua-android-q/c/30653554.epi

เปิดใช้งานโหมดประหยัดแบตเตอรี่

ในสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต รุ่นใหม่ๆ จะมีโหมดประหยัดแบตเตอรี่ (Battery Saving Mode หรือ Power Saving Mode) ติดเครื่องมาให้อยู่แล้ว โดยเมื่อเปิดใช้เครื่องจะทำการลดแสงหน้าจอลงและปรับความเร็วในการประมวลผลของ CPU ลงเล็กน้อยโดยที่เรายังสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ตามปกติ

การเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่บน iOS

สำหรับiOS สามารถเปิดการใช้งาน Low Power Mode ได้ โดยการเข้าไปที่ Setting > Battery > Low Power Mode

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://www.thejournal.ie/battery-saver-mode-smartphone-2618156-Feb2016/

สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ให้ เปิด Quick Panel และกดที่ Power Saving หรือไปที่ Setting > Device Care > Power Mode จากนั้นจะสามารถ เลือกใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่ทั้งแบบ Medium Power Saving และ Maximum Power Saving

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android

ภาพจาก : https://consumer.huawei.com/in/support/how-to/newbie-guide/en-gb00758760/

นอกจากนี้ สำหรับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Android การปิดการใช้งาน Widget ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต และปิดการใช้งาน NFC ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้เช่นกัน

บทสรุป วิธีประหยัดแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟน หรือ แท็บเล็ต iOS และ Android

สำหรับวิธีการ ประหยัดแบตเตอรี่ ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นถือว่าเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถนำเอาไปใช้งานจริง และใช้ระยะเวลาเพียงไม่นาน ก็หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับหลายๆ คนลองนำเอาไปปรับใช้เพื่อยืดเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานที่สุด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0