“วิทยา แก้วภราดัย” จวก กกต. มีเกือบ 600 เรื่องร้องเรียนกรณีการเลือกตั้งไม่สุจริต แต่กลับคืบหน้าเพียง 2 เรื่อง ฉะ สอบตก จี้ แจงสาเหตุความล่าช้า
นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม ว่า การเลือกตั้งเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มี 581 เรื่องร้องเรียน แต่มีเพียง 2 เรื่อง ที่คืบหน้า คือ 1. กรณีของผู้สมัครบางคนไปบริจาคเงินให้วัดที่ จ.เชียงใหม่ กกต. มีมติให้ใบแดง ซึ่งมีการเลือกตั้งซ่อมไปแล้ว 2. กรณี จ.สมุทรปราการ ผู้ใกล้ชิดผู้สมัครใช้เงินในงานตามประเพณี กกต. ให้ใบเหลือง อยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลฎีกา
ส่วนที่เหลือ 500 กว่าเรื่อง ทั้งผู้ถูกร้องและผู้ร้องไม่เคยได้มีโอกาสได้ทราบความคืบหน้าใดจาก กกต.ชุดนี้เลย นายวิทยา จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า การทำงานของ กกต.ชุดนี้ อาจจะส่อขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะมาตรา 215 ระบุชัดว่า องค์กรอิสระทั้งหมดรวมทั้ง กกต. ต้องทำหน้าที่และใช้อำนาจโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ แต่ กกต. กังวลในคำวินิจฉัย กลัวจะกระทบเสถียรภาพต่อรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. การให้ใบเหลือง ใบแดง รัฐบาลมีทางแก้การเมืองเอง ดังนั้น กกต. ต้องกระทำโดยสุจริตเที่ยงธรรมกับการเลือกตั้ง และการควบคุมการเลือกครั้งที่ผ่านมาถือว่า กกต.สอบตก เพราะกำลังจะออกหนังสือรับรองการเลือกตั้งประเทศไทยว่าปราศจากการซื้อสิทธิขายเสียง ไม่มีใครเชื่อว่าไม่มีการซื้อขายเสียง แต่ไม่เคยมีการจับกุมเรื่องราวการซื้อขายเสียงโดยตรงได้เลย
นายวิทยา กล่าวต่อไปอีกว่า บางกรณี กกต. ใช้ระยะเวลาสอบสวน ไต่สวนนานเกินความจำเป็นถึง 4 เดือน เช่น ที่ตนร้องเรียนผู้สมัครบางคนบางพรรคว่าโฆษณาหลอกลวง จูงใจให้เข้าใจผิด ในคะแนนนิยมที่ตนร้องเรียนไป โดยอ้างว่าเป็นด็อกเตอร์ ทั้งที่ยังไม่จบด็อกเตอร์ และระบุในเอกสารแนะนำตัวเลือกตั้งว่าเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สภาทนายความ แต่สภาทนายความยืนยันว่าไม่เคยมี ซ้ำยังกล่าวอ้างว่าเป็นเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในสมัย นายพิจิตต รัตตกุล ซึ่งทาง กทม. ยืนยันว่าเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด กกต.จังหวัดนครศรีธรรมราช สรุปผลต่อ กกต.กลาง ตั้งแต่เดือน มิ.ย. มีหลักฐานพยานเอกสารทางราชการยืนยันในข้อเท็จจริงหมด เหลือปัญหาเดียว คือ กกต.กลาง ไม่วินิจฉัยเรื่องนี้
พร้อมกันนี้นายวิทยา ทิ้งท้ายว่าถ้า กกต. ยังทำหน้าที่คุมเลือกตั้งได้แค่นี้ ขอให้เตรียมรับมือการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้น และขอให้ กกต. ชี้แจงสาเหตุความล่าช้าในการทำหน้าที่ชี้ขาดคดีเลือกตั้ง ส.ส. ว่าคืบหน้าแค่ไหน อย่างไร ถ้า กกต. ทั้ง 7 คนยังทำงานล่าช้า ขัดทั้งรัฐธรรมนูญและระเบียบองค์กรตัวเองโดยหวั่นเกรงเรื่องการเมือง ถือว่าล้มเหลว
ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง
- “เทพไท” มอง นายกฯ ขอหยุดทะเลาะเป็นเรื่องยาก ย้ำ ต้องปฏิบัติเท่าเทียม
- “องอาจ” ตั้ง 4 แนวทาง ส.ส.ประชาธิปัตย์ อภิปรายงบ 63 มั่นใจผ่านฉลุย
- “กรณ์” เผย ประชาธิปัตย์เคาะ 4 ข้อสรุปอภิปรายงบในสภา ชี้ ยังไม่ตอบโจทย์
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath