เมื่อคุณมีสถานที่ที่ต้องไปหรือใกล้ถึงกำหนดส่งงานแล้ว คุณคงไม่อยากให้ใครมาเดินทอดน่องอยู่ข้างหน้าคุณบนท้องถนน ในฐานะที่ฉันเป็นชาวนิวยอร์คโดยกำเนิด..บอกเลยว่าผู้ที่เดินช้าคือหายนะในวันที่ยุ่งเหยิงของเราและฉันขอโทษที่ต้องบอกว่าจริงๆแล้วคุณมีสิ่งอื่นที่น่ากังวลมากกว่าคนอย่างฉันที่เกลียดการใช้ชีวิตของคุณ นั่นก็คืองานวิจัยใหม่ระบุว่าผู้ที่เดินช้ามีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจตั้งแต่ในช่วงวัยหนุ่มสาวด้วย
ทั้งนี้กลุ่มนักวิจัยยังติดตามผู้คนมากกว่า 420,000 คนเป็นระยะเวลา 6 ปีเพื่อหาความเชื่อมโยงกันระหว่างความเร็วในการเดินปกติกับอัตราการเสียชีวิตของพวกเขา ผลการวิจัยพบว่าผู้ที่เดินช้ามีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจในช่วงระยะเวลา 6 ปีมากกว่าผู้ที่เดินเร็วราว 1.8-2.4 เท่า อย่างไรก็ตามกลุ่มนักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้ที่เดินเร็วกับการใช้ชีวิตอย่างกระตือรือร้น จากสมมติฐานพบว่าผู้ที่เดินเร็วจะแข็งแรงและมีแนวโน้มที่จะออกกำลังกายมากกว่าผู้ที่เดินช้า ดังนั้นผู้ที่เดินเร็วจะห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน หรือพฤติกรรมเนือยนิ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้คือสาเหตุของโรคหัวใจ อย่างไรก็ตามหากคุณรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในข่ายที่จะเป็นโรคหัวใจ ทางที่ดีคุณควรเพิ่มกิจกรรมต่างๆเข้าไปในชีวิตให้มากกว่านี้ มันคงไม่ลำบากมากเกินไปใช่ไหม? ไม่มีใครบอกว่าคุณต้องกลายเป็นนักวิ่งมาราธอนในชั่วข้ามคืน เพียงขยับร่างกายเบาๆเพื่อเรียกเหงื่อทุกวัน..เท่านี้ชีวิตของคุณก็มีสีสันแล้ว
เริ่มจากหลีกเลี่ยงการใช้บันไดเลื่อนและลิฟท์ หากคุณเห็นบันไดที่ยาวมากก็จงเดินขึ้นลงบันไดที่ยาวมากนั่นแหละ รับรองว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาดใจ นอกจากนี้การออกกำลังกายที่ใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็สามารถทำให้คุณสนุกไปกับมันได้เพราะฉันก็ทำแบบนี้ตลอดเวลาโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะมีงานยุ่งวุ่นวายขนาดไหน ขณะเดียวกันหากคุณใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การลงรถก่อนถึงจุดหมายประมาณ 1-2 ป้ายจะทำให้คุณต้องเดินมากขึ้นประมาณ 10-20 นาที และถ้าคุณไม่อยากเดินเร็วก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยคุณก็ได้เคลื่อนไหวแล้วซึ่งนั่นล่ะคือเป้าหมายสูงสุดของเรา แม้ว่าการเดินช้าๆอย่างมั่นคงจะทำให้ชนะการแข่งขัน แต่เมื่อพูดถึงสุขภาพหัวใจ..คุณจำเป็นต้องเคลื่อนไหวมากขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ร่างกายของตัวเอง
