นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยถึงกรณีที่จีนประกาศภาวะฉุกเฉินสูงสุดทั่วประเทศห้ามคนเข้าออกว่า ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นัดประชุมหารือถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศจีนกับผู้ประกอบการเอกชนด้านท่องเที่ยวทั้งหมด เช่น บริษัททัวร์ สายการบิน ผู้ประกอบการโรงแรม ผู้ประกอบการรถนำเที่ยวว่าผลกระทบและความเสียหายที่เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะหยุดการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวได้อย่างไร ซึ่งหากสามารถหยุดได้เร็วความเสียหายก็น้อยแต่ถ้ายืดเยื้อก็เกิดความเสียหายมาก โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวเอสเอ็มอี เนื่องจากมีสายป่านสั้นอาจจะต้องปิดกิจการได้
นอกจากนี้ต้องรอดูว่าภาครัฐจะมีมาตรการอะไรเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการบ้าง เพราะตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะห้ามคนจีนมาไทยแต่คนไทยก็ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศจีนได้เช่นกัน ซึ่งจีนปิดประเทศ และที่ทราบข่าวเบื้องต้นเชื้อมีการแพร่ระบาดหนักในหลายพื้นที่ของจีน ดังนั้นภาครัฐควรมีมาตรการเข้ามาแก้ปัญหาเร่งด่วนเรื่องการแพร่ระบาดเชื้อโคโรนาก่อนที่จะมีมาตรการอื่น ๆ ในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเบื้องต้นประเมินรายได้จากการท่องเที่ยวหายไปประมาณ 50,000 ล้านบาท แต่จะมากกว่านี้หรือไม่ต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งก่อน โดยปกตินักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยใช้จ่ายประมาณ 50,000 บาทต่อครั้งต่อทริป
ขณะเดียวกันขอเตือนให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในประเทศ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ พัทยา สมุย ป้องกันการแพร่งระบาดของไวรัสด้วยการใส่หน้ากากอนามัย (Mask) ในพื้นที่ชุมชนหรือมีคนหนาแน่น และหมั่นล้างมือทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อยู่บ่อยครั้ง