นายชลำ อรรถธรรม เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า ข้อมูลเรื่องการปิดตัวของโรงเรียนเอกชนในปีนี้ ค่อนข้างน่าตกใจ จากการเปรียบเทียบของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) เทียบจำนวนโรงเรียนเอกชนในสังกัดพบว่า การศึกษาในระบบ ประเภทโรงเรียนสามัญศึกษา ปีการศึกษา 2561 มีโรงเรียน 4,003 แห่ง และปีการศึกษา 2562 ปิดตัว 66 แห่ง เหลือ 3,937 แห่ง
ส่วนการศึกษาเอกชนนอกระบบ ได้แก่ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนสอนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนเสริมทักษะชีวิต โรงเรียนปอเนาะ โรงเรียนตาดีกา ปีการศึกษา 2561 มีทั้งหมด 10,538 แห่ง และปีการศึกษา 2562 ปิดตัว 15 แห่ง เหลือ 10,523 แห่ง
เมื่อรวมโรงเรียนเอกชนทุกประเภท พบว่าในปีการศึกษา 2562 ปิดตัวลงกว่า 80 แห่ง ซึ่งถือว่าปิดตัวเพิ่มจากเดิม 4 เท่า โดยเฉพาะโรงเรียนเอกชนสามัญศึกษา ที่จากเดิมจำนวนปิดตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 20 แห่งต่อปี แต่ในปีนี้กลับมีโรงเรียนปิดตัวถึง 66 แห่ง
สำหรับสาเหตุที่ต้องปิดตัวลง อาจจะมาจากการที่โรงเรียนเอกชนที่เปิดสอนเฉพาะระดับชั้นอนุบาล เมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกับโรงเรียนรัฐ เพราะโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)เปิดรับสอนนักเรียนระดับอนุบาล 3 ขวบเช่นเดียวกันทำให้เกิดการแย่งผู้เรียน
นายชลำ กล่าวย้ำว่า หากยังมีตัวแปรที่โรงเรียนรัฐเปิดรับนักเรียนอนุบาล 3 ขวบอยู่ โรงเรียนเอกชนจะได้รับผลกระทบแน่นอน และอาจจะต้องปิดตัวเพิ่มมากขึ้น จึงขอให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ทำความเข้าใจ และกำชับไปยังพื้นที่ให้ชัดเจนว่า การเปิดรับนักเรียนอนุบาล 3 ขวบ ต้องให้โรงเรียนเอกชนเปิดรับก่อน