โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วิกฤติ 2 เขื่อนใหญ่ระดับประเทศน้ำใช้ได้ไม่ถึง 10%

สำนักข่าวไทย Online

เผยแพร่ 06 ก.ค. 2563 เวลา 13.30 น.

ตาก 6 ก.ค. - ช่วงกลางฤดูฝน เขื่อนหลายแห่งมีน้ำไหลเข้าเขื่อนจนพ้นวิกฤติแล้ว แต่เขื่อนขนาดใหญ่ 2 แห่งของประเทศทางภาคเหนือ คือเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งเป็นหัวใจของการใช้น้ำในลุ่มเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำน้อยใช้การได้ไม่ถึง 10% กลายเป็นความเสี่ยงของภัยแล้งที่คนภาคกลาง และกรุงเทพฯ ต้องจับตาใกล้ชิด

แพกลางน้ำและเรือนำเที่ยวจอดสงบนิ่งในเขื่อนภูมิพล ท่ามกลางสภาพน้ำที่ลดลงจนมองเห็นโขดหิน เป็นสภาพที่เกิดขึ้นช่วงกลางฤดูฝนของปีนี้ แม้ในพื้นที่จังหวัดตาก จะมีฝนตก แต่ฝั่งตะวันออกซึ่งเขื่อนตั้งอยู่ มีฝนเพียงเล็กน้อย ช่วง 2 เดือน น้ำไหลเข้าเขื่อนเพียง 70 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำเก็บกักเหลือ 29% และมีน้ำใช้การได้เพียง 2% หรือราว 39 วันเท่านั้น  

วิกฤติน้ำน้อยส่งผลต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำปิง เขตอำเภอเมืองตาก ซึ่งอยู่ท้ายเขื่อนภูมิพล แม้จะเป็นหน้าฝน แต่ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง บางช่วงมีสภาพเป็นสันดอนทราย ทำให้กระชังปลาเสียหาย ปลาน็อกน้ำตาย ขาดทุนหลายหมื่นบาท

เช่นเดียวกับเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ก็ประสบปัญหาฝนตกใต้เขื่อน แต่ละวันมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพียง 10 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ต้องปล่อยระบายลงพื้นที่ท้ายเขื่อนวันละ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงเหลือน้ำใช้การได้เพียง 7%

กลางฤดูฝนแบบนี้ ทั้งเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงยึดแผนบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูแล้ง เน้นระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือพื้นที่ปลูกข้าวนาปี และรักษาระบบนิเวศท้ายเขื่อน พร้อมเตือนเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างประหยัด คาดว่าเดือนสิงหาคม ฝนจะตกชุก ช่วยเติมน้ำในเขื่อนไว้เก็บกัก และระบายช่วยพื้นที่ท้ายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพจนถึงฤดูแล้งปีหน้า.-สำนักข่าวไทย 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0