ก่อนหน้านี้ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ลงไปติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูอ่าวมาหยา จังหวัดกระบี่ หลังประกาศปิดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน 2561 ว่าการปิดอ่าวมาหยาที่ผ่านมามีการฟื้นฟูเพียงเล็กน้อย ปะการังเติบโตขึ้นบ้าง แต่ยังไม่น่าพอใจ จึงจำเป็นต้องขยายการปิดอ่าวมาหยาเพิ่ม
จากการพิจารณามีความคิดปิดประมาณ 1-3 ปี แต่จำเป็นต้องศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ก่อน เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยว แต่สภาพระบบนิเวศของอ่าวมาหยา ยังอยู่ในขั้นวิกฤต เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในระยะยาว หากเร่งเปิดก็อาจจะทำให้อ่าวมาหยา เกิดผลกระทบซ้ำรอยเดิม อย่างเช่น แนวปะการังที่เพิ่งแตกกิ่งได้เพียงเล็กน้อยและทรายที่ชายหาดยังคงทรุดตัวต่อเนื่องอาจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของอ่าวมาหยา พังทลายถาวร
ก่อนหน้านี้ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอให้กระจายนักท่องเที่ยวไปเกาะอื่นๆ แทน เพื่อให้เกาะมาหยา ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมได้อย่างเต็มที่
ด้าน นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ระบุว่าอ่าวมาหยา ต้องรับนักท่องเที่ยววันละ 3,000-5,000 คน ทำให้ปะการังเสื่อมโทรมเข้าขั้นวิกฤต ปัญหาหลักๆ จากเรือบรรทุกนักท่องเที่ยว การเหยียบย่ำจากนักท่องเที่ยวทำให้ทรายไหลลงกีดขวางกระบวนการเพิ่มทรายหน้าหาดตามธรรมชาติ และการทาครีมกันแดด ผลสำรวจจากนักท่องเที่ยวร้อยละ 90 ใช้ครีมกันแดดมีสารเคมี 3 ชนิด ชะล้างลงแนวปะการัง ปีละ 14,000 ตัน ขัดขวางการเจริญเติบโตของปะการัง
นายทรงธรรม ระบุด้วยว่าตลอด 20 ปีที่ ผ่านมา อ่าวมาหยาไม่เคยปิดฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทั้งบนบกและชายหาดเลย จนการท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่องสร้างความเสียหายและเสื่อมสภาพของทรัพยากรธรรมชาติบริเวณอ่าวมาหยา อย่างรุนแรง ในอนาคตจะเร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการและชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้าใจในเรื่องนี้
ในอดีตอ่าวมาหยาเคยเป็นอ่าวที่มีความสวยงามมากที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก แต่ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้นและไร้การควบคุมดูแล ส่งผลกระทบให้อ่าวมาหยา เกิดความเสื่อมโทรมติดอันดับ 1ใน 5 ของโลก
ขณะที่ตัวแทนผู้ประกอบการกังวลว่าการขยายเวลาปิดอ่าวมาหยา ไม่มีกำหนด จะส่งผลกระทบในการจองโปรแกรมการท่องเที่ยวต่างประเทศที่จองโปรแกรมไว้เป็นปี เพื่อมาเที่ยวอ่าวมาหยา รวมถึงที่พักต่างๆ ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวในปลายปี ก็อาจจะทำให้ความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวไทยลดลง รวมถึงส่งผลกระทบต่อรายได้ของชาวบ้าน
จึงอยากเสนอให้ช่วงการท่องเที่ยวปีนี้เป็นปีสุดท้าย ก่อนจะปิดอ่าวมาหยา ในระยะยาว มั่นใจว่าประชาชนและผู้ประกอบการพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการปิดอ่าวอย่างเต็มที่ เพราะอ่าวมาหยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกระบี่ และฝั่งทะเลอันดามัน
โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์
เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด
