เดือนมีนาคมที่ผ่านมา นักวิจัยพบซากวาฬคูเวียร์ถูกพบที่เมืองดาเวา ทางตอนใต้ของฟิลลิปปินส์ โดยจากผลการชันสูตรพบว่าวาฬหนุ่มตัวนี้เสียชีวิตเนื่องจากขยะพลาสติกอุดตันในกระเพาะอาหาร และเกิดอาการช็อคตาย (Gastric Shock) แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือ จำนวนขยะพลาสติกกว่า 40 กิโลกรัมแทบจะทะลักออกมาขณะทำการผ่าท้องซากวาฬตัวนี้ ! “เราค่อยๆ ดึงพลาสติกชิ้นแรกออก แล้วก็ชิ้นที่สอง และต่อๆไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนสุดท้าย เราพบกระสอบข้าว 16 ถุง , ถุงขนม , เชือกไนล่อน และขยะอื่นๆ ทั้งหมดกว่า 40 กิโลกรัม” นักวิจัยผู้ที่ชันสูตรศพวาฬหนุ่มพูดขึ้น ขณะมองภาพแสนสลดใจ และยังย้ำว่า “นี่เป็นพลาสติกในท้องวาฬที่เยอะที่สุดที่เขาเคยพบ” และอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเรายังไม่รีบแก้ปัญหา ในทุกๆ ปี ขยะทะเล รวมถึงพลาสติก และอุปกรณ์ประมงไหลออกสู่มหาสมุทรราว 8 ล้านตัน และจากงานวิจัยปี 2015 พบว่า มีพลาสติกอยู่ในกระเพาะของนกทะเลกว่าร้อยละ 90 เลยทีเดียว อีกทั้งองค์กร UNESCO ยังกล่าวว่า ในทุกๆ ปีสัตว์ทะเลกว่า 100,000 ไม่อาจเลี่ยงจุดจบจากภัยร้าย “พลาสติก” ที่มนุษย์สร้างขึ้น
มีรายงานว่าภายในปี 2050 จำนวนพลาสติกในทะเลทั้งหมด อาจมีมากกว่าจำนวนปลา ! มูลนิธิ Ellen MacArthur ชี้ว่า หากเรายังไม่รีบเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคพลาสติก ในอีก 20 ปีข้างหน้า สิ่งที่เราจะพบในทะเลอาจไม่ใช่ปลา แต่เป็นพลาสติกที่เราทิ้งกันไปตั้งแต่วันนี้
ความจริงที่น่าเศร้าอีกประการคือ ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 6 ของโลกที่มีการใช้งานพลาสติกมากที่สุด
วาฬหนุ่มคูเวียร์ตัวนี้ เป็นหนึ่งในเหยื่อขยะพลาสติกที่คร่าชีวิตนับร้อยในทุกๆ ปี และเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พฤติกรรมการใช้พลาสติกของมนุษย์นั่นเองที่คร่าชีวิตเหล่านี้ โดยจากงานวิจัยพบว่า คนไทยใช้พลาสติกเฉลี่ยถึงวันละ 3 ใบต่อวัน
