โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วาทกรรม"เจ๊หน่อย"อยู่กับเรากระเป๋าตุงฯกับคำถาม"ตุง"แบบไหน !?

Manager Online

อัพเดต 16 ม.ค. 2562 เวลา 19.15 น. • เผยแพร่ 16 ม.ค. 2562 เวลา 19.15 น. • MGR Online

เมืองไทย 360 องศา

มาตามแนวถนัดกับความพยายามคิดค้นวาทกรรมออกมาเรียกร้องความสนใจอยู่เสมอสำหรับคนในพรรคเพื่อไทย ล่าสุด "เจ๊หน่อย"คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยพยายามเน้นย้ำคำพูดในแบบที่ว่า"อยู่กับเรากระป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ" ฟังเผินๆตอนแรกๆก็มันดี มีความอธิบายในตัวเองในแบบ"โชว์เหนือ"ให้เห็นว่าในยุคของเรา หรือหากจะเลือกพรรคของเราเป็นรัฐบาลก็จะมีกินมีใช้ มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่จนกรอบเหมือนกับในยุค"ลุง"(ตู่)อย่างในปัจจุบัน

ฟังดูก็เหมือนกับว่าเมื่อพูดแล้วชาวบ้านติดหูนำไปขยายผล ซึ่งน่าจะได้ผลบ้าง แต่กลายเป็นว่ามันยังไม่เปรี้ยงปร้าง หรือยัง"ไม่ปัง"อยู่ดี เพราะเมื่อมีการสำรวจตรวจสอบดูแล้วถือว่า"ยังแผ่วเบา"อยู่มาก สาเหตุอาจเป็นเพราะกระแสของพรรคเพื่อไทยในยุคปัจจุบันแผ่วลงไปมากแล้วก็ได้เมื่อเปรียบเทียบกับยุคก่อนหน้านี้หรือก่อนยุค "ลุงตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือก่อนที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

ในความเป็นจริงจะว่าไปแล้ว พรรคเพื่อไืทย หรือแม้แต่พรรคที่แตกตัวออกไป(ตามแผน)ไม่ว่าจะเป็นในชื่อไทยรักษาชาติ หรือชื่อใดก็ตามเวลานี้ถือว่า"ไม่มีอะไรใหม่"ไม่มีอะไรที่โดดเด่นให้ฮือฮา ไม่เชื่อก็ลองพิจารณาจากตัวบุคคลโดยเฉพาะ"พรรคแม่"อย่างพรรคเพื่อไทย ที่เวลานี้แกนหลักล้วนแต่เป็นคนหน้าเดิม เก่า(แก่)แทบทั้งสิ้น ที่สำคัญที่ผ่านมาคนพวกนี้ไม่เคยมีความคิดในเชิงนโยบายที่ก้าวหน้าแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะพวกเขาล้วนเคยชินกับการอยู่ใต้ร่มเงาของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาในแบบ"ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"

ขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับพรรคอื่น ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ในยุคปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่อย่างน้อยก็มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนโยบายที่นำเสนอออกมาให้เห็นตลอดเวลา ล่าสุดในวันครู 16 มกราคม พวกเขาก็เสนอนโยบายในการช่วยเหลือคุณครูออกมาเป็นแพ็กเกจ พรรคภูมิใจไทยก็มีออกมาอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่พรรคพลังประชารัฐที่เน้นในเรื่องการสานต่อนโยบายประชารัฐ เรื่อง"บัตรสวัสดิการ" เป็นต้น ซึ่งแต่ละพรรคก็นำเสนอมาให้พิจารณา ส่วนจะโดนใจชาวบ้านหรือไม่นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง

แต่คำถามคือแล้วพรรคเพื่อไืทย รวมไปถึงพรรคไทยรักษาชาติที่ถูกมองว่าเป็นพรรคสาขากลับไม่เคยเห็นการนำเสนอนโยบายออกมาให้เห็นเลย หรือแม้แต่"แย้มๆ"ออกมาบ้างก็ยังไม่มี นอกจากมีแต่คำพูดเหน็บแนม โจมตีคนอื่น หรือคำพูดแบบว่า "อยู่กับเรา กระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ" ซึ่งจะแฟบจริงหรือไม่ยังไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อตอนอยู่กับพรรคเพื่อไทยในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ออกนโยบายรับจำนำข้าวทุกเมล็ด นั้นกระเป๋าใครตุงกันแน่ แล้วคนที่กระเป๋าตุงจริงๆนั้นเผ่นไปนอกกันหมดแล้วใช่หรือไม่ ปล่อยให้พวกลิ่วล้อที่ "กูพูดไม่ได้"ต้องติดคุกรับกรรมอยู่ในเวลานี้หรือเปล่า

หากให้สรุปกันตามความเป็นจริงในเวลานี้ถือว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคเครือข่ายและพรรคบริวารล้วนไม่มีนโยบายที่โดดเด่นมานำเสนอออกมาให้เห็นเลย มีแต่คำพูดโจมตีด่าทอเหน็บแนมฝ่ายตรงข้าม หรือไม่ก็ประเภทสถาปนาตัวเองว่าเป็น"ฝ่ายประชาธิปไตย" ซึ่งก็น่าจับตาอย่างยิ่งว่านี่อาจเป็นประชาธิปไตย"สายพันธุ์ใหม่"ที่ใช้การเลือกตั้งเป็นเครื่องพิสูจน์ในการวัดความเข้มข้น

ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งมันก็น่าเห็นใจเหมือนกันหากมองกันว่าจุดขายของพรรคเหล่านี้คือนโยบาย"ประชานิยม"แต่เมื่อภายใต้กติกาใหม่มีการบังคับให้ต้องชี้แจงที่มาที่ไปของนโยบายว่าทำได้จริงหรือไม่ ผิดวินัยการคลังหรือไม่ ไม่ใช่คิดจะเสนออะไรแบบส่งเดชเกทับฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ก่อน เหมือนกับโครงการรับจำนำข้าวที่ถือว่า"ปิดตาย"ไปแล้ว หรือแม้แต่นโยบาย 30 บาท ที่เวลานี้ก็ถูกแทนที่ด้วยการรักษาฟรีไม่ต้องเสียสักบาทแล้ว

แม้ว่าในที่สุดแล้วทุกพรรคการเมืองต้องนำเสนอนโยบายมาแข่งขันกัน ซึ่งในที่สุดแล้วพรรคเพื่อไทยก็ต้องนำเสนอออกมาจนได้ แต่ในเมื่อโครงการประชานิยมประเภทลดแลกแจกแถมถูกเข้มงวดตรวจสอบจากกติกาใหม่ มันก็ทำให้"คิดใหม่ทำใหม่"ในแบบที่เคยเป็นทำได้ยากเหมือนกัน แต่เท่าที่เห็นในเวลานี้มันมีแต่"ขายของเก่า"สร้างวาทกรรมให้ชาวบ้านเชื่อแค่ว่าอยู่กับเราแล้วจะดีกว่า หรือที่ว่า"กระเป๋าตุง"แต่คำถามก็คือ "ใครตุง"และ"ตุงแบบไหน"กันแน่ !!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ดูเพิ่มเติม Manager Online