เมื่อวานนี้ (18 เมษายน 2562 ) ถือเป็นการเริ่มงานวันแรกอย่างเป็นทางการ ของ บี๋ อริยะ พนมยงค์” อดีต กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย ในตำแหน่ง President บริษัท บีอีซี เวิลด์ หรือ กลุ่มช่อง 3 นับเป็นผู้บริหารภายนอกคนแรกที่ไม่ได้มาจากคนในตระกูล “มาลีนนท์” ที่เข้ามารับตำแหน่งบริหารสูงสุด
ในวันแรกของ บี๋-อริยะ เริ่มขึ้นตั้งแต่แต่เช้าตรู่ 07.30 น. ซึ่งเป็นกำหนดการ สักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตายาย เพื่อความเป็นศิริมงคลรับปีใหม่ไทย และการเข้าทำงานวันแรก และตามปฏิทินจีน วันที่18 เมษายน ถือเป็นวันธงชัย เหมาะสำหรับจัดงานพิธีมงคล โดยฤกษ์มงคล7.00-9.00 น
พิธีสักการะนี้จัดขึ้นเป็นการภายในโดยมีประชุมมาลีนนท์ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บีอีซี เวิลด์ และผู้บริหารระดับสูง เช่น ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ สมรักษ์ ณรงค์วิชัย รองกรรมการผู้จัดการ ไทยทีวีสีช่อง3 เข้าร่วมในพิธี
“บี๋- อริยะ” มาทำงาน ด้วยสไตล์แต่งตัวแบบ Casual เสื้อยืดสีขาว หรือเสื้อเชิ๊ต พร้อมกับสวมกางเกงยีนส์ โชว์ความฟิตแอนด์เฟิร์ม ของผู้บริหารหนุ่มวัย 45 ปี อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้บริหารรุ่นใหม่ยุคนี้ที่นิยมแต่งกายด้วยสไตล์นี้ ซึ่งบี๋เอง ก็แต่งกายแนวนี้ มาตั้งแต่ เป็นผู้บริหารที่ Google และ LINE
หลังจากนั้น 10.30 น. เขาเริ่มต้นงานแรก ด้วยการเรียกประชุมอย่างไม่เป็นทางการกับบรรดากลุ่มผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มช่อง 3 โดยในการประชุมได้มีมอบช่อดอกไม้ และภาพวาดสีน้ำ ซึ่งเป็นอริยะยืนกอดอกในท่าประจำตัว เพื่อเป็นการต้อนรับการมาทำงานวันแรก
ต่อด้วยในช่วงบ่าย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหาร ที่มีประชุม มาลีนนท์เป็นประธาน
“บี๋-อริยะ” เขาเกิดและโต ในประเทศฝรั่งเศส เขาจึงพูดและเขียนภาษาฝรั่งเศส อังกฤษได้คล่องแคล่ว ส่วนภาษาไทยพูดได้ อ่านได้ แต่เขียนไม่ได้ เขาชื่นชอบดื่มน้ำแร่ร่เปอริเอ้จากฝรั่งเศสเป็นพิเศษ แถมเป็นที่รู้ว่ากันประสบการณ์ การดูทีวีไทยเป็นศูนย์ เนื่องจากมีลูกแฝดยังเล็ก จึงไม่ได้ดูทีวีมาหลายปีแล้ว
แต่นั่นไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะเป้าหมายในการทำงานของเขาในทุกที่ คือ จะต้องสร้าง“IMPACT ”ในธุรกิจ เหมือนอย่างที่เขาเคยทำมาในLINE และสร้างLINE TV ให้กลายเป็นทีวีรีรันบนมือถือมาแล้ว
บี๋-อริยะ มาร่วมงานกับช่อง 3 พร้อมกับทีมงานส่วนตัวจำนวนหนึ่ง และผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ พร้อมการคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยมว่าเขาจะเข้ามาช่วยกอบกู้กลุ่มช่อง 3 ให้ฟื้นตัวขึ้นมาเสียที
ก่อนหน้าจะมารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เขาได้เดินทางไปพร้อมกับผู้บริหารช่อง 3 เพื่อไปร่วมงาน NAB Show 2019 ( National Association of Broadcastors ) งานใหญ่ประจำปีของคนในวงการทีวีโลก ที่จัดขึ้นทุกปีที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ในช่วง 6-11 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นเริ่มต้นศึกษาเทรนด์ของโลก ก่อนมาปรับใช้กับกลุ่มช่อง 3
ความท้าทายของเขาต่อจากนี้ คือ สร้าง IMPACT ให้ผู้ชมทั่วไปให้กลับมาดู และขยายช่องทางขายคอนเทนต์ของกลุ่มช่อง 3 ออกไปในหลายแพลทฟอร์ม พร้อมกับการเติบโตของรายได้และผลกำไร
จังหวะการมารับตำแหน่งใหญ่ในช่อง 3 ของบี๋-อริยะ ถือเป็นช่วงเดียวกับที่มีประกาศรัฐ .ปลดล็อคทีวีดิจิทัล ไม่ต้องจ่ายเงินค่าประมูล 2 งวดสุดท้าย และค่าเช่าโครงข่าย MUX รวมถึงเสนอให้ขอคืนช่องได้ แถมจ่ายเงินชดเชยอีกด้วย นับเป็นการช่วยเหลือแบบ “สุดซอย” ของภาครัฐ
ส่งกลุ่มช่อง 3 ปลดเปลื้องภาระ ไม่ต้องจ่ายเงินค่าประมูลทั้ง 3 ช่องรวมกันเป็นวงเงิน 1,776.4ล้านบาท และยังประหยัดไม่ต้องจ่ายค่าเช่า MUX อีก 9 ปี 6 เดือน รวมมูลค่าได้รับความช่วยเหลือเกือบ 3 พันล้านบาท
ยังไม่รวม เงินชดเชยจากการคืนใบอนุญาต ซึ่งมีรายงานข่าวว่า กลุ่มช่อง 3 อาจจะเสนอขอคืนใบอนุญาตช่อง 3Family หรือช่อง 13 ด้วย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์มีการประเมินว่า ด้วยการ “ปลดล็อก”ช่วยทีวีดิจิทัลครั้งนี้ จะเป็นการพลิกฟื้นบีอีซี เวิลด์ จากขาดทุน 330 ล้านบาทในปีที่แล้ว ให้กลับมามีกำไรเพิ่มขึ้น 29-40% ทันที ทันทีในปีหน้าและปีถัดไป
ทำให้การเผชิญกับความท้าทาย”ในแง่ผลประกอบการของช่อง 3 ที่เหลือจึงเป็นภาระ จะช่วยฟื้นช่อง 3 และสร้างกระแส IMPACT ในวงการทีวีดิจิทัลและสังคมตามที่เขาคาดหวังได้อย่างไร.
