โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วันนี้ พิพากษาฎีกา คดีอดีต ปธ.สหกรณ์ฯ คลองจั่นทุจริต

ช่อง 7

อัพเดต 20 ส.ค. 2562 เวลา 02.31 น. • เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 02.31 น. • Ch7
วันนี้ พิพากษาฎีกา คดีอดีต ปธ.สหกรณ์ฯ คลองจั่นทุจริต
วันนี้ พิพากษาฎีกา คดีอดีต ปธ.สหกรณ์ฯ คลองจั่นทุจริต

20 สิงหาคม 2562 ในเวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณา 711 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกา คดีดำ อ.1739/58 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อายุ 62 ปี อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 32 ปี
ขณะที่ นายศุภชัย ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ จำคุก 14 ปี ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 7 ปี
สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2556 สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2555 และที่ประชุมมีมติเลือกนายศุภชัย จำเลย เป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดที่ 29 อยู่ในตำแหน่ง 2 ปี ต่อมานายทะเบียนสหกรณ์ได้ตรวจสอบพบว่าการเรียกประชุมใหญ่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับ และกฎหมาย นายทะเบียน จึงมีหนังสือลงวันที่ 23 เมษายน 2556 ไม่รับรองตำแหน่งประธานกรรมการจากการประชุมดังกล่าว
ต่อมา สหกรณ์ยูเนี่ยนฯ มีมติให้การรับรองนายศุภชัย จำเลย เป็นประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์อีกครั้ง และยังเปิดประชุมคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 2 สมัยสามัญ ครั้งที่ 1/2556 และมีมติแต่งตั้งนายศุภชัย จำเลย ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการสหกรณ์ฯ อีกตำแหน่งด้วย กระทั่งวันที่ 10 เมษายน- 8 ตุลาคม 2556 จำเลย ซึ่งเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นฯ ได้กระทำการทุจริต โดยให้เจ้าหน้าที่บัญชีเบิกเงินสดของสหกรณ์ ผู้เสียหาย หลายครั้งหลายหนรวม 8 ครั้งๆ ละระหว่าง 184,000-6,000,000 บาท รวม 22,132,000 บาทเข้าบัญชีของจำเลย หรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริต เหตุเกิดที่ทำการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ซึ่ง จำเลยให้การปฏิเสธมาโดยตลอด
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2559 จำเลยได้ให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก , 353 , 354 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันรวม 8 กระทง จำคุกกระทงละระหว่าง 3-5 ปี รวมจำคุก 32 ปี คำให้การจำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 16 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วนับเป็นเรื่องร้ายแรง โทษจำคุกจึงไม่มีเหตุให้รอลงอาญา จำเลยยื่นอุทธรณ์
ต่อมา ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบ 354 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน รวม 8 กระทง กระทงละ 1-2 ปี รวมจำคุก 14 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 7 ปี

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0