โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

วันนี้ในอดีต... 13 พ.ย. "ไผ่ เฟิร์สสเตจ" สิ้นใจ!!! จากอุบัติเหตเครื่องเล่น

NATIONTV

เผยแพร่ 13 พ.ย. 2561 เวลา 01.46 น. • คมชัดลึก
วันนี้ในอดีต… 13 พ.ย. ไผ่ เฟิร์สสเตจ สิ้นใจ!!! จากอุบัติเหตเครื่องเล่น
วันนี้ในอดีต… 13 พ.ย. ไผ่ เฟิร์สสเตจ สิ้นใจ!!! จากอุบัติเหตเครื่องเล่น

การเป็นนักร้องคือสิ่งที่ผมสนใจและต้องการจะเป็นที่สุด สิ่งที่พระเจ้าให้ผมพิเศษกว่าคนอื่นก็คือโอกาสและความกระตือรือร้น ยังมีเหตุการณ์เศร้าที่ต้องนับเป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ทำงานอยู่ในสายงานลักษณะเดียวกันนี้

แต่บางครั้งโชคชะตาก็เหมือนเล่นตลกกับเรา คือต่อให้ระมัดระวังตัวมากขนาดไหน บางครั้งความโชคร้ายก็มาเยือนเราได้จากความประมาทของบุคคลอื่น!!

อย่างกับกรณีการเสียชีวิตของ "ไผ่-เฟิร์สสเตจ" หรือ ไวกูรส์ บุญถนอม นักร้องวัยรุ่นชื่อดังค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันนี้ของ 13 ปีก่อน ที่หลังจากเขาถูกอุปกรณ์เครื่องเล่นหล่นใส่ศีรษะ ในวันก่อนหน้านั้น และหมดสติไม่รับรู้ใดๆ อีกจนกระทั่งวันรุ่งขึ้น หรือตรงกับวันที่ 13 พ.ย.2548 เขาก็ได้ลาโลกนี้ไปอย่างสงบ ด้วยวัยเพียง 22 ปี

เหตุการณ์ร้ายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2548 ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในศิลปินแกรมมี่ที่ไปร่วมงาน "อีเอฟเอ็ม ฟัน แฟร์" ที่จัดโดยคลื่นวิทยุ 93.5 เอฟเอ็ม ของบริษัท เอไทม์ มีเดีย จำกัด ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

โดยไผ่นั้นไปในฐานะนักร้องหน้าใหม่ เจ้าของเพลง "อยากจะขอเป็นแฟน" ในอัลบั้ม "เฟิร์ส สเตจ โปรเจคท์ 2" สังกัดบริษัทแกรมมี่ เทเลวิชั่น จำกัด ในเครือบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน)

ตอนเกิดเหตุนั้น มีรายงานข่าวระบุว่า ไผ่นั้นได้อาสาขึ้นไปทดลองเล่นเครื่องเล่นชื่อว่า "เฟียร์ แฟคเตอร์" ที่จัดขึ้นเฉพาะกิจภายในงาน "อี เอ็ฟ เอ็ม ฟันแฟร์" ในวันนั้น

โดยรูปแบบของการเล่นนั้น จะมีการนำรถเครนที่ใช้ในการก่อสร้าง ความสูงประมาณตึก 5 ชั้น โดยใช้ตะขอของรถผูกกับถังไม้อัด และให้ผู้เล่นที่เข้าร่วมกิจกรรมใส่อุปกรณ์ป้องกัน พร้อมกับเกาะถังดังกล่าว ซึ่งเครนจะยกถังสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามขนาดความสูงที่กำหนด

ปรากฏว่า หลังจากไผ่ทดลองเล่นเสร็จแล้ว และกำลังถอดอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยนั้น ในส่วนของเซฟตี้ เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น

ถังไม้อัดหนักราว 20 กิโลกรัม ได้ร่วงหล่นลงมาตรงกลางศีรษะนักร้องหนุ่มเข้าอย่างจัง (ข่าวบางแหล่งระบุว่าเป็นท่อเหล็กชิ้นส่วนของเครื่องเล่นน้ำหนักกว่า 10 กก.) ท่ามกลางความตกใจของแฟนเพลงที่มุงดูจำนวนมาก

 เจ้าหน้าที่ไม่รอช้า รีบนำไผ่ส่งโรงพยาบาลปิยะมินทร์ในละแวกใกล้เคียงทันที แต่หลังจากแพทย์ตรวจสอบอาการเบื้องต้นพบว่า นักร้องหนุ่มมีอาการสาหัส จึงสั่งย้ายคนไข้ไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลกรุงเทพในห้องไอซียูอย่างเร่งด่วน ท่ามกลางความเศร้าสลดของญาติ และบรรดาแฟนเพลงที่มาเยี่ยมเยียนถึงโรงพยาบาล      

เพียงชั่วระยะเวลา 1 คืน ข่าวคราวได้ถูกรายงานออกสู่สังคมมากมาย ผู้คนพากันติดตามเรื่องนี้ และเอาใจช่วยให้เกิดปาฏิหาริย์

ช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น คณะแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ เปิดเผยอาการว่า ไผ่มีอาการหนัก ไม่รู้สึกตัวเอง และยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจ พักรักษาตัวในห้องไอซียู

และไม่มีการรักษาอะไรเพิ่มเติม ทำเพียงแค่ให้ยารักษาไปตามอาการ โดยทางคณะแพทย์ยังคงไม่มีแผนการที่จะทำการผ่าตัดสมองแต่อย่างใด เนื่องจากไผ่ยังคงอยู่ในอาการโคม่า

แต่แล้วช่วงบ่ายของวันเดียวกัน คือวันอาทิตย์ที่ 13 พ.ย.2548 แพทย์ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ก็ได้เปิดเผยว่า ไวกูรส์ บุญถนอม หรือ ไผ่ นักร้องหนุ่มค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบ

โดยแพทย์ไม่ได้มีการถอดเครื่องช่วยหายใจ แต่อาการของนักร้องหนุ่มก้านสมองตายและหัวใจหยุดเต้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ในวันนั้นเอง

ทั้งนี้ รางานข่าวยังระบุว่า ไผ่นั้นกะโหลกเเตกร้าว ตั้งเเต่ตรงกลางไปจนถึงท้ายทอยด้านหลัง กระดูกคอ 3, 4 เเละ 5 หัก มีเลือดคั่งในสมอง ทั้งนี้เพราะวัตถุที่ร่วงมาถูกศีรษะ มีความเร็วเเละเเรง เนื่องจากหลักเเรงโน้มถ่วงของโลกทำให้เกิดความเเรงถึง 2 เท่า

แน่นอนเรื่องนี้ นอกจากความเศร้าสลดใจของคนไทยและครอบรัวของหนุ่มไผ่ ซึ่งหมายถึง พ.ต.วัลลภ บุญถนอม (ยศขณะนั้น) ขณะเป็นนายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช บิดาของไผ่ เฟิร์สสเตจ และมารดา คือ นางพริ้มเเพรว ที่ทำใจไว้แล้ว แต่ก็ยังอดเศร้าสลดไม่ได้

โดยหลังแพทย์แถลงข่าวเสร์จ ผู้เป็นเเม่ถึงกับเป็นลมล้มลงไปกองกับพื้น จนทุกคนต้องพากันปฐมพยาบาล ขณะที่พ่อนักร้องหนุ่ม ก็ต้องกลืนก้อนสะอื้นลงคออย่างทำใจลำบากที่สุดในชีวิต บรรดาญาติๆ ก็พากันร้องไห้ะะงม

แต่ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเป็นประเด็นตอนนั้น คือ เรื่องทางคดีความ ที่ข่าวระบุว่า ทางเลขาฯ สภาทนาย ระบุชัด กรณีนี้เจ้าของเครนต้องผูกพันรับผิดทางแพ่ง ร่วมชดใช้ค่าสินไหม ในฐานะนายจ้าง ส่วนคดีอาญาอาจยังไม่ชัดเจน แต่ที่แน่คนคุมเครน ประมาทปฏิเสธความรับผิดไม่ได้

กล่าวคือ คนที่คุมเครนเป็นคนประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนผู้จัดงาน เจ้าของเครนจะมีส่วนรับผิดด้วย หรือไม่นั้นต้องพิจารณาในแง่กฎหมายอีกครั้ง

แต่ที่ชัดเจนในความผิดทางแพ่ง คนที่ควบคุมเครนกระทำโดยประมาท ปราศจากความระมัดระวังต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนในผลของการตายฐานละเมิด

ส่วนคนที่เป็นเจ้าของเครน ก็ต้องผูกพันรับผิดด้วยในฐานะนายจ้าง ลูกจ้าง หรืออาจจะเข้าลักษณะตัวการ ตัวแทน ซึ่งลูกจ้างหรือตัวแทนไปทำละเมิดใคร นายจ้างหรือตัวการ ก็ต้องรับผิดด้วย

อย่างไรก็ดี เบื้องต้นหลังเกิดเหตุ ผู้ขับเครนได้หลบหนีไป และบริษัท เอไทม์ มีเดีย ยินดีรับผิดชอบทั้งหมด

หากแต่ยังมีข่าวรายงานว่า ความคิดเห็นของบิดาไผ่ หลังเหตุการณ์นี้ ช่างน่าสนใจยิ่ง คือ เขาระบุว่า อยากเตือนไปยังพวกที่ชอบเล่นท้าทายทำนองนี้ว่า หากเป็นอะไรลงไป คนที่เสียใจที่สุดก็คือพ่อเเม่พี่น้อง

หากจะจัดการเล่นเสี่ยงตายเช่นนี้ ควรดูเเลเรื่องความปลอดภัยอย่างละเอียด ตนเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกเป็นเหตุสุดวิสัย ไม่อยากไปโทษใคร

"ขณะนี้สังคมมองไปที่คนขับรถเครนเป็นคนผิด ตนไม่อยากให้เป็นเเบบนั้น ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย จุดอื่นที่ควรรับผิดก็มีอย่าไปลงที่คนๆ เดียว"

อย่างไรก็ดี เวลานั้นในด้านคดี มีรายงานข่าวว่า หลังเกิดเหตุนางผานิต อรุณรัตน์ อายุ 43 ปี ป้าของผู้ตายได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อคนขับรถเครนแล้ว และมีการเรียกสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ

เหลือเพียงคนขับรถเครน อายุ 30 ปีที่ยังไม่มามารายงานตัว และหลบหนีไป และจนถึงปัจจุบันนี้ ข่าวคราวก็เงียบหายไป ไม่มีรายงานว่า ได้มีการพบและจับกุมตัวคนขับเครนผู้นี้มาดำเนินคดีทางกฎหมายหรือยัง

แต่ช่วงเวลานั้น นับเป็นความเศร้าสลดใจแก่คนไทยเป็นอันมาก

คนในวงการบันเทิงและแฟนเพลงมาร่วมงานศพเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ศาลา 7 ที่มีการบำเพ็ญกุศลนักร้องหนุ่ม บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

อย่างไรก็ดี ยังมีมุมที่อ่านแล้ว ต้องนำ้ตาไหลอีกครั้ง เมื่อเวลานั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ไผ่จะประสบอุบัติเหตุ

เขาได้เข้าไปเขียนคำพูดทักทายแฟนคลับผ่านเวบไซต์ส่วนตัว http:/yimsiam.com/pai_fss2 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งถ้าเป็นยุคนี้ ก็คงเป็นเฟซบุค หรือ อินสตาแกรม

โดยครั้งนั้น จะนับว่าเป็นคำพูดสุดท้ายที่นักร้องหนุ่มได้ทิ้งไว้ให้กับแฟนเพลงก็ว่าได้ โดยเนื้อความมีว่า

"คิดถึงเหมือนเดิมนะครับ ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยได้เข้ามาคุยสักเท่าไร เพราะยุ่งเหลือเกิน แต่คิดถึงเหมือนเดิมนะครับ พรุ่งนี้ว่าง 1 วัน กะจะนอนให้เต็มที่ ก็นอนตั้งแต่เย็นเลยตื่นมา 5 ทุ่ม…ซะงั้น นอนไม่หลับเลยครับ เหงาจังเลย เพื่อนๆ หายไปหมด แฟนก็ไม่มี ร้องอยากจะขอเป็นแฟน ก็ไม่ได้ผลครับ โสดสนิทเหมือนเดิมเลย… เอิ๊กๆ"

"วันศุกร์นี้มีงานที่บ้านใร่กาแฟตอน 5 โมงเย็นนะครับ อ้อ…สาขาเอกมัย นะครับ ไปพบปะพูดคุยกันได้นะครับ งานหนังสือเธอกับฉันครับผม ส่วนเสาร์นี้ อีเอฟเอ็ม ฟัน แฟร์ ใครไม่ไปมีเคือง…"

หรือก่อนหน้านี้ในเวบไซต์เดียวกัน ไผ่เคยเขียนบอกความรู้สึกของตัวเองกับการเป็นนักร้องครั้งแรกไว้ว่า

"ผมมีอะไรอยากจะบอก…การเป็นนักร้องคือสิ่งที่ผมสนใจและต้องการจะเป็นที่สุด ผมเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง หน้าตาธรรมดา เสียงก็ธรรมดา บุคลิกก็ธรรมดา แต่สิ่งที่พระเจ้าให้ผมพิเศษกว่าคนอื่นก็คือโอกาสและความกระตือรือร้น" (จาก https://www.skyscrapercity.com/showthread.php?page=7&t=117191)

ขอรำลึกถึงดาวดวงนี้ด้วยบทเพลงนี้ของเขาอีกครั้ง

ขอบคุณผู้ใช้ยูทูบ boonrealmadrid

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0