โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

วันชี้แชมป์ไทยลีก "บุรีรัมย์ VS ท่าเรือ"

Manager Online

เผยแพร่ 18 ต.ค. 2562 เวลา 03.10 น. • MGR Online

ศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล เหลือการแข่งขันในอีก 2 เกมสุดท้าย ซึ่งอาจจะได้เห็นโฉมหน้าแชมป์ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2562 เพราะมีเกมสำคัญ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ การท่าเรือ เอฟซี

สุดสัปดาห์นี้มีเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ที่ถือเป็นเกมชี้ชะตาแชมป์ ระหว่าง "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 3 ที่จะยกทัพไปเยือน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงและทีมแชมป์เก่า ที่ช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ โดยในเกมดังกล่าวเจ้าถิ่นจัดคอนเสิร์ตจาก "ฟักกลิ้ง ฮีโร่" มาเอาใจแฟนฟุตบอลที่เดินทางไปยังสนามมในวันดังกล่าวอีกด้วย

ขุนพล "ปราสาทสายฟ้า" ภายใต้การกุมบังเหียนของโบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือชาวเซิร์บ หมายมั่นปั้นมือที่จะเถลิงแชมป์ลีกสูงสุดของไทยให้ได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และในฤดูกาลนี้พวกเขาต้องอกหักกระเด็นตกรอบฟุตบอลถ้วยไปแล้วทั้งหมด 2 รายการ ทั้ง "ช้าง เอฟเอ คัพ" และ "โตโยต้า ลีกคัพ" ทำให้ยิ่งมุ่งมั่นจะต้องคว้าแชมป์ลีกมาครองให้ได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาได้ถ้วยแชมป์มาครอบครอบไปแล้ว 1 ใบ ในรายการ "ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ 2019" เมื่อต้นปี ในการเอาชนะ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-1

อย่างไรก็ตามฟอร์มการเล่นในช่วงหลังถือว่าไม่สู้ดีนัก 6 เกมหลังสุดในทุกรายการ ชนะได้เพียง 2 เกม เสมอ 1 เกม และแพ้ถึง 3 เกม แต่ดีเสียหน่อยตรงที่ในเกมลีกพวกเขาเก็บชัยมา 2 นัดรวด เหนือชัยนาท ฮอร์นบิล 1-0 และบุกไปชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-2 ในเกมที่แล้ว ทำให้มี 54 คะแนน กลับไปผงาดจ่าฝูงอีกครั้งหลังจากการที่สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทำแต้มหล่นในนัดที่ผ่านมาจนร่วงไปรั้งอันดับ 3 ของตาราง จากการมี 52 คะแนนเท่ากับ การท่าเรือ เอฟซี แต่ลูกได้เสียเป็นรอง ที่สำคัญไปกว่านั้นถ้าเกมนี้ ปาสาทสายฟ้า เก็บชัยเหนือผู้มาเยือนได้ จะทำให้พวกเขาเข้าใกล้แชมป์มากขึ้นไปอีก เนื่องจากในเกมสุดท้ายจะต้องเจอทีมบ๊วยอย่าง เชียงใหม่ เอฟซี ซึ่งโอกาสชนะค่อนข้างสูง

สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ไม่มีปัญหาผู้เล่นติดโทษแบน และยังได้รับข่าวดี สุภโชค สารชาติ ดาวรุ่งฟอร์มแรงที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ สลัดเดี้ยงกลับมาลงสนามให้กับทีมชาติไทยในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบสอง ที่เอาชนะ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 2-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมจากการรับใช้ชาติ พร้อมลงสนาม รวมไปถึง พรรษา เหมวิบูลย์ ที่หายเจ็บแล้วแต่ไม่ได้ลงในเกมคัดบอลโลก ก็พร้อมลงสนามเหมือนกัน แต่ยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ สตีเฟ่น พัลล่า และเควิน อินเกรโซ่ 2 แข้งทีมชาติฟิลิปปินส์ ส่วนคนอื่นๆอยู่กันพร้อมหน้า นำโดย อันเดรส ตูเนส, ศุภชัย ใจเด็ด, ฮาจิเมะ โฮโซไก, กรกช วิริยอุดมศิริ, รัตนากร ใหม่คามิ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, รวมไปถึง 2 ศูนย์หน้าต่างชาติ อย่าง ราสมุส ยอนส์สัน และนาเซอร์ บาราซิต

ทางฝั่ง "สิงห์เจ้าท่า" ภายใต้การบริหารของประธานสโมสรสาวแกร่ง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ โดย "โค้ชโชค" โชคทวี พรหมรัตน์ พาทีมโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมติดลมบนหลังเข้ามาคุมทีมใน 11 เกมหลังสุดทุกรายการ พ่ายแพ้เพียงนัดเดียว เสมอ 1 นัด และเก็บชัยได้ถึง 9 นัด (ชนะจุดโทษ บียู 1 นัด เสมอใน 120 นาที) ที่สำคัญคือการดวลจุดโทษเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลเอฟเอ คัพ ในรอบ 10 ปีของสโมสร ส่วนผลงานเฉพาะในเกมลีก พวกเขาเก็บชัยมา 3 นัดติดต่อกัน จากการบุกชนะ เชียงใหม่ เอฟซี 2-0 เปิดบ้านชนะนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในเกมตกค้าง 3-0 และล่าสุดเปิดบ้านต้อน ชัยนาท ฮอร์นบิล 4-0 ทำให้พวกเขามี 52 คะแนน ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงโดยมีแต้มเท่ากับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แต่ลูกได้เสียดีกว่า ตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2 คะแนน เพราะฉะนั้นในเกมนี้ถ้าหาก "สิงห์เจ้าท่า" เก็บ 3 คะแนนถึงถิ่นช้าง อารีน่า ได้ จะทำให้พวกเขาขึ้นไปผงาดจ่าฝูงในทันที

สภาพความพร้อมของทีมในเกมนี้ จะไม่มี โก ซุลกี มิดฟิลด์ตัวรับเกาหลีใต้ที่ติดโทษแบน และต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ นิติพงษ์ เสลานนท์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่รับใช้ชาติในเกมคัดบอลโลกเมื่อกลางสัปดาห์ รวมไปถึง มาร์ติน สตูเบิล แบ็คซ้ายจากฟิลิปปินส์ที่ไปรับใช้ชาติมาเช่นกัน ในส่วนของ เควิน ดีรมรัมย์ สลัดเดี้ยงหายเจ็บกลับมาลง 45 นาทีในเกมอุ่นเครื่องช่วงพักเบรกทีมชาติ แต่ต้องรอเช็กฟิตอีกหนึ่งคน อย่างไรก็ตามพวกเขาจะได้ สุมัญญา ปุริสาย ห้องเครื่องตัวเก่งที่หายบาดเจ็บกลับมามีลุ้นลงสนามเป็น 11 คนแรก ส่วนคนอื่นๆ พร้อม้ลงสนาม นำโดย เซร์คิโอ ซัวเรซ, โจซิมาร์, โรแลนโด แบล็คเบิร์น, ศิวกร จักขุประสาท, บดินทร์ ผาลา, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, เอเลียส ดอเลาะห์

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในทุกรายการนับตั้งแต่ปี 2007 ดวลแข้งกันมาทั้งสิ้น 23 นัด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เหนือกว่าพอสมควร เก็บชัยได้ 15 นัด เสมอกัน 6 นัด การท่าเรือ เอฟซี ชนะได้เพียง 2 นัด โดยการเจอกัน 9 เกมหลังสุด "ปราสาทสายฟ้า" ไม่เคยปราชัยเลยแม้แต่นัดเดียว ซึ่งนัดสุดท้ายที่ "สิงห์เจ้าท่า" เอาชนะคู่แข่งจากแดนเซาะกราว ต้องย้อนไปในปี 2014 ที่เปิดแพท สเตเดียม เฉือนชนะไปได้ 1-0 เท่ากับว่ายอดทีมจากถิ่นคลองเตย ต้องเจอกับอาถรรพ์ ไม่สามารถเอาชนะทีมแชมป์เก่ามา 5 ปีแล้ว

นอกจากนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับ การท่าเรือ เอฟซี แม้แต่นัดเดียวยามเล่นในบ้านของตัวเอง เคยหลุดผลเสมอแค่ 2 นัดเท่านั้น เมื่อปี 2009 และ 2010 โดยฤดูกาลที่แล้วเป็นทีมปราสาทสายฟ้า ที่เปิดบ้านเอาชนะ สิงห์เจ้าท่า ไปด้วยสกอร์ 3-1 และการเจอกันในเกมล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา บุรีรัมย์ บุกไปเอาชนะ การท่าเรือ ถึงถิ่น 3-1

ศึกฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 นัดที่ 29 ของฤดูกาล นัดชี้ชะตาแชมป์ ระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดช้าง อารีน่า รับการมาเยือนของ "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี แข่งขันวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา 18.00น. True4U ทีวิดิจิตอล ช่อง 24 ถ่ายทอดสดให้ชม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0