โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

วัดผลประกอบการ 3 ค่ายมือถือ ‘เอไอเอส’ ยังนำโด่ง ทั้ง ‘รายได้-กำไร’ ยึดแชมป์เหนียวแน่น

The Bangkok Insight

อัพเดต 17 ส.ค. 2562 เวลา 16.22 น. • เผยแพร่ 18 ส.ค. 2562 เวลา 02.00 น. • The Bangkok Insight
วัดผลประกอบการ 3 ค่ายมือถือ ‘เอไอเอส’ ยังนำโด่ง ทั้ง ‘รายได้-กำไร’ ยึดแชมป์เหนียวแน่น

หลังจากทั้ง 3 ค่ายมือถือเมืองไทย ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2/2562 กันมาเรียบร้อย มาดูกันว่า สถานภาพของแต่ละค่ายเป็นอย่างไรกันบ้าง แบบเทียบกันชัดๆ ทั้งรายได้ กำไร จำนวนลูกค้าและแผนงานในครึ่งปีหลัง

เริ่มจาก บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส พี่ใหญ่ในวงการเครือข่ายมือถือเมืองไทย ที่ปิดไตรมาส 2 ปีนี้ ไปด้วยรายได้รวม 44,688 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโต 2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2562 ขณะที่ผลกำไรก็เติบโตเช่นกัน โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,234 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่อง 4 ไตรมาส ติดต่อกัน

สมชัย เลิศสุทธิวงค์
สมชัย เลิศสุทธิวงค์

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ในโตรมาส 2 ปี 2562 นี้ เอไอเอสยังคงมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้รวมเติบโตขึ้น 5.8% จากปีก่อน จากภาพรวมของการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้รายได้ต่อเลขหมาย ARPU (Average Revenue per User) สูงขึ้นเป็น 263 บาทต่อเดือน และส่งผลให้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโต 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจุบันเอไอเอสยังคงความเป็นผู้นำอย่างแข็งแกร่งโดยมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์มือถือสูงสุดในตลาดที่ 41.5 ล้านเลขหมาย ขณะที่มีสัดส่วนลูกค้าที่ใช้ 4G สูงถึง 66% และมีการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น 11.5 กิกะไบต์ต่อเดือน จาก 8.9 กิกะไบต์ต่อเดือน ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอณ์ ยังคงมีรายได้เติบโตต่อเนื่องกว่า 26% โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 855,400 ราย ครอบคลุมการใช้งานในพื้นที่ 57 จังหวัดทั่วประเทศ และยังคงเน้นย้ำเป้าหมายจำนวนลูกค้า 1 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้

“ประกอบกับการควบคุมต้นทุนต่อเนื่อง ส่งผลให้ในไตรมาส 2/2562 เอไอเอสมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,234 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 8.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา คิดเป็นกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสี่ไตรมาสติดต่อกัน พร้อมทั้งคงคาดการณ์รายได้การให้บริการเติบโตทั้งปีที่ 4-6% รวมถึงการจัดสรรงบลงทุน 20,000 – 25,000 ล้านบาทสำหรับลงทุนทั้งในโครงข่าย 4G และไฟเบอร์”นายสมชัยกล่าว

นอกจากนี้ เอไอเอสยังได้เตรียมความพร้อมสู่ 5G ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถของเทคโนโลยี 5G ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ , การรับจัดสรรคลื่นความถี่ 700MHz เพื่อก้าวสู่ 5G โดยจะสามารถเริ่มใช้งานได้ในเดือนตุลาคม 2563, การขยายตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร และพัฒนาบริการด้านไอโอทีเพื่อส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจไทย

มาต่อกันที่เบอร์รองมาแรงอย่าง กลุ่มทรู โดยในไตรมาส 2/2562 ที่ผ่านมา กลุ่มทรู มีรายได้กว่า 26,200 หมื่นล้านบาท และมีผลกำไร 1,800 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้และกำไร มาจาก ทรูมูฟ เอช ที่รายได้เติบโต 6.3% มีลูกค้ารวม 29.8 ล้านราย และถือเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้

กิตติณัฐ ทีคะวรรณ
กิตติณัฐ ทีคะวรรณ

ดร. กิตติณัฐ ทีคะวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การเติบโตทั้งรายได่และกำไรของกลุ่มทรู เป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้าและบริการ ซึ่งช่วยเพิ่มฐานลูกค้าคุณภาพและสร้างความผูกพันของลูกค้าต่อกลุ่มทรูได้อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มทรูยังคงเติบโตสูงเหนืออุตสาหกรรม โดยทรูมูฟ เอช เป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวที่มีฐานลูกค้าที่เติบโตในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 นอกจากนี้ การมุ่งเพิ่มมูลค่าให้แก่ลูกค้าด้วยการผสานบริการไฟเบอร์บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต 1 Gbps พร้อมคอนเทนต์และบริการด้านดิจิทัลครบวงจร รวมถึงสิทธิประโยชน์มากมายภายใต้กลุ่มทรู สร้างความแตกต่างและความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งให้แก่กลุ่มทรูได้อย่างชัดเจน

กลุ่มทรูยังเดินหน้าให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยทรูมูฟ เอช มีสถานีฐานเครือข่ายกว่า 76,000 สถานี รวมทั้งพื้นที่ให้บริการทรูไวไฟอีกมากกว่า 1 แสนจุด และทรูออนไลน์มีเครือข่ายไฟเบอร์บรอดแบนด์ที่ครอบคลุมแล้วกว่า 15 ล้านครัวเรือน
สำหรับแผนการดำเนินงานจากนี้ จะมุ่งขยายช่องทางการขายและพื้นที่ให้บริการ พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรและคู่ค้าเพื่อเข้าถึงและเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของกลุ่มอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลให้กลุ่มทรูเติบโตได้สูงต่อไปในครึ่งหลังของปี

ส่วนธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ในไตรมาส 2 ปี 2562 ที่ผ่านมา ทรูออนไลน์ มีลูกค้าบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตรายใหม่สุทธิมากกว่า 64,000 ราย ส่งผลให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 3.6 ล้านราย และผลักดันรายได้ให้เติบโตจากไตรมาสก่อนเป็น 6,300 ล้านบาท ขณะที่ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการเติบโต 3.7% จากไตรมาสก่อนหรืออยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์โดยเฉพาะการจัดคอนเสิร์ตเกาหลี

พร้อมกันนี้ กลุ่มทรูดิจิทัลกรุ๊ป ยังมุ่งพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรม แพลตฟอร์มและโซลูชั่นส์แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตจากบริการต่างๆ เช่น บริการด้านดิจิทัล บริการวิเคราะห์ข้อมูล, บริการไอโอที ที่เดินหน้าพัฒนาดิจิทัลโซลูชั่นส์ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ การเกษตร ค้าปลีก สุขภาพ ขนส่งและโลจิสติกส์ โดยล่าสุดได้มีอุปกรณ์ไอโอทีที่เชื่อมต่อและใช้บริการมากกว่า 193,000 อุปกรณ์ ซึ่งเติบโต 14% จากไตรมาสก่อนหน้า

ปิดท้ายที่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ที่เติบโตได้เช่นกันในไตรมาส 2 ปี 2562 ด้วยรายได้ 20,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 8% จากไตรมาส 2/2561 ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่1,694.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีฐานลูกค้ารวม 20.6 ล้านเลขหมาย

อเล็กซานดรา ไรช์
อเล็กซานดรา ไรช์

นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2562 สอดคล้องกับแผนพลิกฟื้น ที่ประกาศในงาน Capital Markets Day เห็นได้ชัดเจนว่า การสร้างความไว้วางใจและเชื่อมั่นของลูกค้าต่อเครือข่ายดีแทค เริ่มส่งผลในเชิงบวกแล้ว ทั้งในด้านความพึงพอใจและปริมาณการร้องเรียนด้านเครือข่าย โดยมีจำนวนลูกค้าลดลงเพียง 94,000 เลขหมายในไตรมาสนี้ ขณะที่บริการระบบรายเดือนยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง บริการในระบบเติมเงินก็เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกัน ดีแทคยังได้ติดตั้งสถานีฐานบนเครือข่าย 2300 MHz เพิ่มเติมอีก 600 สถานี รวมทั้งเพิ่มจำนวนสถานีรวมบนเครือข่าย2300 MHz เป็นประมาณ 16,000 สถานี นอกจากนี้ยังติดตั้งสถานีฐานบนเครือข่าย 2100 MHz เพิ่มอีกจำนวน 348 สถานี เพื่อขยายความครอบคลุมของสัญญาณในพื้นที่การใช้งานปัจจุบัน

ด้านแผนงานนับจากนี้ ดีแทคจะมุ่งเน้นผลักดันปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ดีแทคกลับมาเติบโตอีกครั้ง ได้แก่ การปรับปรุงโครงข่ายเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นของลูกค้า, การดึงลูกค้ากลุ่มองค์กรกลับคืนมา และการเร่งขยายโอกาสในกลุ่มลูกค้าทั่วไป พร้อมควางแผนใช้เงินลงทุนในปี 2562 ประมาณ 13,000 – 15,000 ล้านบาท

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0